ซื้อรถมือสองทำประกันชั้นไหนดี พร้อมแนะนำวิธีเลือกให้คุ้มที่สุด
01 กันยายน 2025
ผู้ชม: 10 คน

ซื้อรถมือสองทำประกันชั้นไหนดี เทียบชัดๆ เลือกแบบไหนคุ้มค่าที่สุด

ซื้อรถมือสองทำประกันชั้นไหนดี

การตัดสินใจซื้อรถมือสองสักคันนับเป็นก้าวสำคัญ แต่การเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมก็สำคัญไม่แพ้กัน หลายคนอาจมองข้ามเพราะคิดว่าเป็นรถมือสอง แต่ความจริงแล้วความเสี่ยงบนท้องถนนไม่ได้ลดน้อยลงเลย การมีประกันภัยรถยนต์จึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันทางการเงินที่ขาดไม่ได้ วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมข้อมูลและเปรียบเทียบประกันแต่ละชั้นอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกประกันภัยรถยนต์มือสองที่ใช่และคุ้มค่ากับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
 

ทำไมรถมือสองยังต้องทำประกันภัย?

แม้ว่ารถมือสองจะมีราคาถูกกว่ารถป้ายแดง แต่ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไม่ได้แตกต่างกันเลย การทำประกันภัยจึงไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมาย (สำหรับ พ.ร.บ.) แต่เป็นเรื่องของความสบายใจและความปลอดภัยทางการเงินของคุณโดยตรง ลองจินตนาการถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเฉี่ยวชน, รถหาย, หรือไฟไหม้ หากไม่มีประกันภัยรองรับ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถของเราและคู่กรณีอาจสูงจนน่าตกใจ การมีประกันภัยรถยนต์สำหรับมือสองที่เหมาะสมจะช่วยเปลี่ยนภาระหนักทางการเงินให้กลายเป็นเบา พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ ไม่ว่ารถของคุณจะอายุเท่าไหร่ ความคุ้มครองก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ

 

เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้น แบบไหนเหมาะกับรถมือสอง

การเลือกประเภทประกันภัยก็เหมือนการเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับโอกาส ไม่มีแบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีแบบที่ "เหมาะสมที่สุด" สำหรับรถและการใช้งานของคุณ เรามาดูกันว่าประกันแต่ละชั้นมีความคุ้มครองแตกต่างกันอย่างไร

ประกันภัยชั้น 1 คุ้มครองสูงสุด เหมาะกับรถมือสองแบบไหน?

ประกันชั้น 1 ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด หรือที่เรียกกันว่า "คุ้มครองรอบคัน" ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสาไฟฟ้า, ขับเบียดฟุตบาท, ถูกขีดข่วน รวมถึงคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้ด้วย แม้เบี้ยประกันจะสูงที่สุด แต่ก็แลกมากับความสบายใจแบบเต็มร้อย สำหรับรถยนต์มือสองการทำประกันชั้น 1 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

เหมาะกับใคร

  • รถมือสองที่อายุไม่เกิน 5-7 ปี รถยังใหม่อยู่ มูลค่ายังสูง การซ่อมแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายมาก การมีประกันชั้น 1 จึงคุ้มค่า
  • มือใหม่หัดขับ หรือผู้ที่ยังไม่ชำนาญเส้นทาง มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีสูง ประกันชั้น 1 จะช่วยดูแลในส่วนนี้
  • รถที่ยังผ่อนชำระไม่หมด ส่วนใหญ่ไฟแนนซ์จะบังคับให้ทำประกันชั้น 1 เพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด ต้องการความอุ่นใจแบบไร้กังวล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็มีประกันคอยดูแล

ประกันภัยชั้น 2+ คุ้มค่า ครบครัน รถชนรถมีเคลม

ประกันชั้น 2+ เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงมากสำหรับรถยนต์มือสอง เพราะให้ความคุ้มครองที่เกือบเทียบเท่าประกันชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยประกันในราคาที่ถูกกว่ามาก จุดเด่นคือให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ "รถชนรถ" เท่านั้น (ต้องมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก) พร้อมทั้งยังคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้เหมือนประกันชั้น 1 จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวระหว่างราคากับความคุ้มครอง

เหมาะกับใคร

  • ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ มั่นใจในการขับขี่ของตัวเอง โอกาสเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีน้อย
  • รถที่อายุเกิน 7 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจไม่สามารถทำประกันชั้น 1 ได้แล้ว หรือเบี้ยประกันชั้น 1 เริ่มสูงเกินไป
  • ผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ย แต่อยังอยากได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหตุการณ์รุนแรง เช่น รถชน, รถหาย, ไฟไหม้
  • ผู้ที่มีที่จอดรถปลอดภัย ลดความเสี่ยงเรื่องการถูกขีดข่วนหรืออุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี

ประกันภัยชั้น 3+ ตัวเลือกสุดประหยัด คุ้มครองรถเราเมื่อมีคู่กรณี

ประกันชั้น 3+ มีความคล้ายคลึงกับประกันชั้น 2+ คือคุ้มครองอุบัติเหตุแบบ "รถชนรถ" และต้องมีคู่กรณี แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ประกันชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้ ทำให้เบี้ยประกันถูกลงไปอีกระดับ เหมาะสำหรับคนที่มองหาความคุ้มครองพื้นฐานที่จำเป็นในราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด แต่ยังคงให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของเราอยู่

เหมาะกับใคร

  • รถยนต์ที่มีอายุค่อนข้างเยอะ (10 ปีขึ้นไป) ที่มูลค่าตัวรถไม่สูงมากนัก
  • รถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือขับขี่ในเส้นทางที่คุ้นเคยเป็นประจำ ความเสี่ยงต่ำ
  • ผู้ที่ต้องการคุมงบประมาณค่าเบี้ยประกันอย่างจริงจัง แต่ยังต้องการความคุ้มครองสำหรับอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น
  • ผู้ที่มีที่จอดรถในบ้านหรือพื้นที่ปลอดภัยสูง ไม่กังวลเรื่องความเสี่ยงรถหายหรือไฟไหม้

ประกันชั้น 3 เบี้ยถูกสุดๆ สำหรับรถใช้งานน้อย

ประกันชั้น 3 เป็นประกันภาคสมัครใจที่มีค่าเบี้ยถูกที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองเฉพาะ "รถของคู่กรณี" เท่านั้น ทั้งความเสียหายต่อทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาล แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราเลย เหมาะสำหรับเป็นเกราะป้องกันพื้นฐานในการรับผิดชอบต่อผู้อื่นตามกฎหมาย

เหมาะกับใคร

  • รถเก่ามากๆ ที่ไม่เน้นซ่อมแซมความสวยงาม หากเกิดอุบัติเหตุ เจ้าของรถสามารถรับผิดชอบค่าซ่อมรถของตัวเองได้
  • รถที่ใช้งานน้อยมาก จอดไว้เป็นส่วนใหญ่ หรือขับแค่ในระยะใกล้ๆ
  • ผู้ที่ต้องการเพียงความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เพื่อให้ถูกต้องและสบายใจเมื่อเกิดเหตุ

ปัจจัยสำคัญในการเลือกประกันให้รถยนต์มือสอง

4 ปัจจัยสำคัญในการเลือกประกันให้รถยนต์มือสอง

เมื่อเข้าใจความคุ้มครองของประกันแต่ละชั้นแล้ว การจะตัดสินใจเลือกประกันภัยรถยนต์มือสองให้ลงตัวที่สุดนั้น จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยส่วนตัวเหล่านี้ประกอบกัน เพื่อให้ได้แผนประกันที่ใช่สำหรับคุณจริงๆ

1. อายุรถยนต์

อายุของรถเป็นปัจจัยแรกที่บริษัทประกันจะพิจารณา โดยทั่วไปแล้ว ประกันชั้น 1 มักจะรับรถที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท) หากรถของคุณอายุเกินกว่านี้ ตัวเลือกอาจจะจำกัดลงมาที่ ประกันชั้น 2+, 3+, หรือ 3 ตามลำดับ ทั้งนี้เพราะรถที่มีอายุมากขึ้น ค่าเสื่อมสภาพและค่าบำรุงรักษาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย การเลือกประกันให้สอดคล้องกับอายุรถจึงเป็นเรื่องสำคัญ

2. พฤติกรรมการขับขี่และความเสี่ยง

ลองถามตัวเองว่าคุณเป็นผู้ขับขี่สไตล์ไหน? หากคุณเป็นมือใหม่, ต้องขับรถในเมืองที่การจราจรหนาแน่นเป็นประจำ, หรือต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็ย่อมสูงกว่า การเลือกประกันที่ให้ความคุ้มครองสูงอย่าง ประกันชั้น 1 หรือ ประกันชั้น 2+ ก็จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้มากกว่า แต่ถ้าคุณเป็นคนขับรถอย่างระมัดระวัง ใช้รถน้อย ขับเฉพาะเส้นทางที่คุ้นเคย ประกันชั้น 3+ ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เพียงพอและคุ้มค่า

3. งบประมาณและค่าเบี้ยประกัน

เบี้ยประกัน คือค่าใช้จ่ายที่ต้องประเมินให้เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของคุณ ควรตั้งงบประมาณที่สามารถจ่ายได้โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ การเลือกประกันที่มี ความคุ้มครอง สูงเกินความจำเป็นอาจทำให้คุณต้องจ่ายเบี้ยแพงโดยใช่เหตุ ในทางกลับกัน การเลือกประกันที่เบี้ยถูกเกินไปแต่ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมความเสี่ยงของคุณ ก็อาจทำให้ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาได้ ดังนั้น การหาจุดสมดุลระหว่างค่าเบี้ยและความคุ้มครองจึงเป็นหัวใจสำคัญ

4. ทุนประกันที่เหมาะสม

ทุนประกัน คือ วงเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่รถยนต์ของคุณเสียหายสิ้นเชิง, สูญหาย หรือไฟไหม้ โดยปกติแล้ว สำหรับประกันภัยรถยนต์มือสอง ควรเลือกทุนประกันที่ประมาณ 80% ของราคาตลาด ณ วันที่ทำประกัน การตั้งทุนประกันที่สูงเกินไปจะทำให้คุณต้องจ่ายค่าเบี้ยแพงขึ้นโดยไม่จำเป็น แต่หากตั้งไว้ต่ำเกินไป เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมา วงเงินที่ได้รับอาจไม่เพียงพอต่อการซื้อรถคันใหม่มาทดแทน

สรุปบทความประกันภัยรถยนต์มือสอง

 

สรุปบทความ

ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงหรือรถมือสองคู่ใจ การทำประกันภัยรถยนต์คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนดีที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหน "ใช่ที่สุด" สำหรับไลฟ์สไตล์ อายุรถ และการใช้งานของคุณ เมื่อพิจารณาครบทุกปัจจัยแล้ว การเลือกประกันภัยรถยนต์มือสองก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่ TIPINSURE เราเข้าใจทุกความต้องการและพร้อมมอบแผนประกันที่หลากหลาย โดยประกันรถยนต์ชั้น 1 จากทิพยประกันภัยคุ้มครองรถที่มีอายุสูงสุด 15 ปี พร้อมดูแลคุณได้ยาว ๆ ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันแค่ไหน ก็มั่นใจได้ว่ามีเราพร้อมดูแลอยู่เคียงข้างคุณเสมอ

#Tag: