กฎหมายใหม่! จดทะเบียนสัตว์เลี้ยงภายในปี 2569 ใครไม่จดมีโทษปรับ
17 ตุลาคม 2025
ผู้ชม: 12 คน

กฎหมายใหม่! จดทะเบียนสัตว์เลี้ยงภายในปี 2569 ใครไม่จดมีโทษปรับ

กฎหมายใหม่มาแรง! เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องรู้ ปี 2569 นี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าบังคับใช้ กฎหมายจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง อย่างจริงจัง ใครที่เลี้ยงน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงแสนรักทั้งหลาย จะต้องนำไปจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่เพื่อควบคุมจำนวนสัตว์จรจัด แต่ยังเป็นการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและป้องกันปัญหาที่ตามมา

ที่สำคัญ หากเพิกเฉย ไม่จดทะเบียนอาจมีโทษปรับ! ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่คนรักสัตว์ทุกคนต้องใส่ใจ เพราะไม่ใช่แค่การดูแลน้องที่บ้าน แต่ยังหมายถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่กระทบถึงเจ้าของโดยตรง

แล้วขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นอย่างไร? ครอบคลุมสัตว์เลี้ยงประเภทไหนบ้าง? และโทษปรับจริงๆ เท่าไหร่? มาหาคำตอบกันในบทความนี้

 

ทำไมต้องจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง?

กฎหมายใหม่ที่กำลังมีผลบังคับใช้ในปี 2569 กำหนดให้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนต้องนำสัตว์เลี้ยงไปจดทะเบียน ไม่ว่าจะเป็น

  • สุนัข
  • แมว
  • หรือสัตว์เลี้ยงที่กำหนดเพิ่มเติมโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การจดทะเบียนจะช่วยให้รัฐมีฐานข้อมูลสัตว์เลี้ยงที่ชัดเจน ลดปัญหาสัตว์จรจัด และสามารถติดตามเจ้าของได้หากเกิดกรณีสัตว์สร้างความเสียหายหรือถูกทอดทิ้ง

การจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงไม่ใช่ภาระ แต่คือ ความรับผิดชอบที่เจ้าของควรทำ โดยมีเหตุผลสำคัญ

1. ลดปัญหาสัตว์จรจัด

สัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งหรือหลงหายมักกลายเป็นสัตว์จรจัด ที่เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาสังคม ทั้งการกัดคน เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า และอุบัติเหตุบนท้องถนน การจดทะเบียนช่วยให้ ตามหาตัวเจ้าของได้ และลดโอกาสที่สัตว์ถูกทิ้งโดยไม่มีใครรับผิดชอบ

2. มีฐานข้อมูลกลางที่ชัดเจน

เมื่อทุกตัวถูกจดทะเบียน รัฐจะมีฐานข้อมูลสัตว์เลี้ยงระดับประเทศ ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เช่น การควบคุมโรค การวางแผนวัคซีน การจัดการสัตว์จรจัด และนโยบายสาธารณะต่างๆ

3. ป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์

การจดทะเบียนมักมาพร้อมกับการตรวจสุขภาพและการฉีดวัคซีน สัตว์เลี้ยง ทำให้มั่นใจว่าเพื่อนสี่ขาของเรามีสุขภาพแข็งแรง และช่วยป้องกันโรคติดต่อสู่คน เช่น โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคผิวหนังบางชนิด

4. คุ้มครองสิทธิของเจ้าของสัตว์เลี้ยง

หากสัตว์เลี้ยงหายหรือถูกขโมย เอกสารการจดทะเบียนคือ หลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของ อย่างถูกกฎหมาย ลดปัญหาการแอบอ้างสิทธิ์

5. สร้างวัฒนธรรมการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ

การจดทะเบียนสะท้อนว่าเจ้าของ ใส่ใจทั้งสัตว์และสังคม ไม่ใช่แค่เลี้ยงเพราะความน่ารัก แต่พร้อมดูแลตลอดชีวิต และไม่ปล่อยปละละเลย

 

ขั้นตอนการจดทะเบียนและฝังไมโครชิปสัตว์เลี้ยง

  1. บัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของสัตว์เลี้ยง
  2. ทะเบียนบ้านที่สัตว์อาศัยอยู่
  3. หนังสือยินยอมจากผู้เช่ากรณีเป็นผู้เช่า
  4. ใบรับรอง (คสส. 1)
  5. หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน (ถ้ามี)
  6. หนังสือรับรองการผ่าตัดทำหมันจากสัตวแพทย์ (ถ้ามี)
  7. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)

 

คลินิกสัตวแพทย์ของ กทม. ที่ให้บริการฝังไมโครชิปฟรี

คลินิกสัตวแพทย์ กรุงเทพมหานคร 8 แห่ง ให้บริการทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียนสัตว์ฟรี รวมทั้งมีบริการตรวจรักษาโรคเบื้องต้นให้แก่สัตว์เลี้ยง

  1. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 1 (สี่พระยา) โทร. 0 2236 4055 ต่อ 213
  2. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 2 (มีนบุรี) โทร. 0 2914 5822
  3. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 3 (วัดธาตุทอง) โทร. 0 2392 9278
  4. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 4 (บางเขน) โทร. 0 2579 1342
  5. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 5 (วัดหงส์รัตนาราม) โทร. 0 2472 5895 ต่อ 109
  6. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 6 (ช่วงนุชเนตร) โทร. 0 2476 6493 ต่อ 1104
  7. คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 7 (บางกอกน้อย) โทร. 0 2411 2432
  8. กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า เขตดินแดง โทร. 0 2248 7417 

นอกจาก 8 คลินิกที่ให้บริการฝังไมโครชิปฟรี ยังมีคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ของเอกชนก็ให้บริการฝังไมโครชิปสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน โดยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ 300-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อไมโครชิปและค่าบริการของแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์

 

รับหมายเลขทะเบียนสัตว์เลี้ยง

เมื่อเจ้าของดำเนินการฝังไมโครชิปและจดทะเบียน เรียบร้อยแล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบจะออกเอกสารและ หมายเลขทะเบียนประจำตัวสัตว์เลี้ยง ให้ โดยในทะเบียนจะมีข้อมูลสำคัญ

  • หมายเลขไมโครชิป
  • ชื่อและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง
  • อายุ เพศ และสีขน
  • ข้อมูลเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เพียงเท่านี้ ขั้นตอนการจดทะเบียนและฝังไมโครชิปสัตว์เลี้ยงก็เสร็จสมบูรณ์ ถือว่าคุณได้ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อสัตว์เลี้ยงอย่างครบถ้วน ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปรับ แต่ยังสร้างความอุ่นใจว่าหากสัตว์เลี้ยงหาย คุณสามารถใช้ข้อมูลทะเบียนนี้เพื่อติดตามกลับคืนมาได้

 

ข้อจำกัดในการเลี้ยงสัตว์ตามขนาดพื้นที่

กฎหมายเพื่อสัตว์เลี้ยงฉบับใหม่นี้ ไม่ได้กำหนดเพียงการจดทะเบียนและฝังไมโครชิปเท่านั้น แต่ยังมีการจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่อยู่อาศัยของเจ้าของด้วย เพื่อให้การเลี้ยงเป็นไปอย่างเหมาะสม ลดความแออัด และปัญหาสัตว์จรจัด

จำนวนสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงได้ตามขนาดพื้นที่

  • พื้นที่ไม่เกิน 20 ตารางวา คุณสามารถ เลี้ยงได้ ไม่เกิน 2 ตัว
  • พื้นที่ไม่เกิน 50 ตารางวา คุณสามารถ เลี้ยงได้ ไม่เกิน 3 ตัว
  • พื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางวา คุณสามารถ เลี้ยงได้ ไม่เกิน 4 ตัว
  • พื้นที่เกิน 100 ตารางวา คุณสามารถ เลี้ยงได้ ไม่เกิน 6 ตัว

ยิ่งพื้นที่กว้าง ยิ่งเลี้ยงได้มาก แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ทั้งเจ้าของ สัตว์เลี้ยง และชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล

 

เมื่อคุณปฏิบัติตาม กฎหมายเพื่อสัตว์เลี้ยง เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเสริมความมั่นใจด้วยประกันสัตว์เลี้ยงจากทิพยประกันภัย ที่ช่วยให้คุณเลี้ยงน้องหมา น้องแมว ได้อย่างสบายใจทั้งเรื่องกฎหมายและค่าใช้จ่าย ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736

 

ข้อมูลจาก : สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร

#Tag: