โรคซึมเศร้า EP.1
เราเป็นหรือเปล่า??
ทุกวันนี้ โรคที่ดูจะร้ายแรงที่สุด และระบาดในผู้คนทุกระดับ ก็คือ “โรคซึมเศร้า” โดยในหลายๆประเทศเริ่มมีข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดจากโรคนี้มาถี่ขึ้นเรื่อยๆ และดูจะไม่หยุดง่ายๆ ซึ่งต้นตอของปัญหาอาจเกิดจาก สภาพแวดล้อม สังคมในชีวิตประจำวัน เหตุการณ์ที่เจอ หรือสารในสมองผิดปกติ
อย่างไรก็ดี พ่อแม่หรือคนรอบข้างบางกลุ่มอาจยังไม่เข้าใจถึงปัญหานี้ และยังมองว่า มันสามารถแก้ไขได้ไม่ยาก ดูจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ซึ่งความจริงมันร้ายแรงครับ ภาพข่าวในหลายสำนักสามารถการันตีได้เป็นอย่างดี เพราะมันคร่าชีวิตคนมามากอย่างน่าเศร้าใจ
คำถามคือ “เราเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่าล่ะ?”
ในความเป็นจริงแล้ว โรคซึมเศร้ามีหลายระดับนะครับ ตั้งแต่เบาบาง ไปจนถึงหนักหน่วง และมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย
โดยในบทความนี้ เราจะมาดูกันครับว่า คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่?
วิธีการเช็คคือ :
จะต้องมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการหรือมากกว่า
- มีอารมณ์ซึมเศร้า (ในเด็กและวัยรุ่นอาจเป็นอารมณ์หงุดหงิดก็ได้)
- ความสนใจหรือความเพลินใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
- น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือมีการเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
- นอนไม่หลับ หรือหลับมากไป
- กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง
- อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
- รู้สึกตนเองไร้ค่า
- สมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด
- คิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
* ต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ
* ต้องมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมีอาการเหล่านี้อยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน ไม่ใช่เป็นๆ หายๆ เป็นเพียงแค่วันสองวันหายไปแล้วกลับมาเป็นใหม่
( ขอบคุณข้อมูลจาก : จิตเวชศาสตร์ รพ.รามาธิบดี )
ตามที่กล่าวมา หากมีอาการเข้าข่ายโรคซึมเศร้า และดูจะหนักหน่วงแล้ว ผมแนะนำให้รีบพบแพทย์โดยด่วนนะครับ
เนื่องจากโรคนี้ เป็นโรคที่ไม่ควรปล่อยเอาไว้ หรือเก็บตัว อย่างยิ่ง เพราะจัดเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต
รักและห่วงใยเสมอนะครับ