ทำไมฝนตกถึงส่งผลต่ออารมณ์? ภาวะ Monsoon Blues ความเศร้าที่มากับฝน
เสียงฝนที่โปรยปราย หลายคนอาจรู้สึกอบอุ่น สงบ ดูโรแมนติก แต่สำหรับบางคนกลับรู้สึกเหงา เศร้า หดหู่โดยไม่รู้สาเหตุ ด้วยบรรยากาศที่หม่นมัว และท้องฟ้าสีเทา เป็นช่วงเวลาที่อยากหลบอยู่ใต้ผ้าห่มมากกว่าจะออกไปใช้ชีวิตอย่างสดใส
อารมณ์ที่พลิกผันไปพร้อมกับสายฝน คือสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่า Monsoon Blues หรือบางครั้งก็เรียกว่า Rainy Season Depression ภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูฝนมาเยือน ส่งผลต่อสมองและร่างกายของคุณโดยตรง ทั้งแสงแดดที่ลดลง ความชื้นในอากาศที่สูงขึ้น หรือแม้แต่เสียงฝน ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกซึมเศร้าโดยไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะในคนที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือมีอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล
TIPINSURE พาไปทำความเข้าใจว่า ทำไมแค่ฝนตกไม่กี่หยด ถึงส่งผลลึกซึ้งต่อจิตใจเราได้มากขนาดนั้น พร้อมแนะแนวทางดูแลใจ ที่อาจช่วยให้คุณผ่านวันฝนพรำได้อย่างไม่หม่นหมอง
Monsoon Blues คืออะไร?
Monsoon Blues หรือที่บางคนรู้จักในชื่อ Seasonal Affective Disorder (SAD) เวอร์ชันฤดูฝน เป็นภาวะที่ผู้คนรู้สึกซึมเศร้า หดหู่ ขาดแรงจูงใจ หรือต้องการหลีกหนีจากกิจกรรมทางสังคมในช่วงฤดูฝน แม้ไม่ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าโดยตรง แต่อาการเหล่านี้ก็ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิตในระยะยาวได้เช่นกัน
ฝนตก… ทำไมใจถึงเหงา?
ฤดูฝนไม่ได้เปลี่ยนแค่สภาพอากาศ แต่มันยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนเราอย่างลึกซึ้ง นักจิตวิทยาและนักประสาทวิทยาต่างก็ยืนยันว่า บรรยากาศที่มืดครึ้มและแสงแดดที่ลดลงในช่วงฝนตก อาจส่งผลต่อสมดุลของสารเคมีในสมองโดยเฉพาะ เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความสุข
เมื่อแสงแดดน้อยลง การผลิตเซโรโทนินก็ลดลงตาม ทำให้หลายคนรู้สึกหดหู่ เศร้า เบื่อหน่าย หรือแม้กระทั่งรู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย เป็นอาการที่คล้ายกับภาวะซึมเศร้าเล็กๆ ซึ่งในบางประเทศที่มีฤดูฝนยาวนานหรือมีแสงแดดน้อยตลอดปี อาจทำให้คนจำนวนไม่น้อยเผชิญกับอาการที่เรียกว่า SAD (Seasonal Affective Disorder) หรือภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล
เสียงฝน กับความทรงจำที่ถูกปลุกขึ้นมา
นอกจากเรื่องของสารเคมีในสมองแล้ว เสียงฝน ยังมีพลังบางอย่างที่สามารถปลุกความทรงจำเก่าๆ ขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นความรักที่จบลงในวันที่ฝนตก ความเหงาตอนนั่งริมหน้าต่าง หรือแม้แต่เรื่องราวในอดีตที่ยังฝังใจ บางครั้งแค่ได้ยินเสียงฝน คุณก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปยังช่วงเวลานั้นอีกครั้ง
ฝนตกทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ไหม?
แม้ว่าฝนตกจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของโรคซึมเศร้า แต่ก็สามารถเป็นตัวกระตุ้น หรือปัจจัยเสริมที่ทำให้อาการซึมเศร้าแสดงออกรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น คนที่เคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน คนที่อยู่คนเดียว หรือกำลังเผชิญภาวะเครียดสะสม
จัดการตัวเองอย่างไรในวันฟ้าครึ้ม
แม้ฝนจะควบคุมไม่ได้ แต่ความรู้สึกของคุณจัดการได้ ลองเริ่มต้นด้วยสิ่งเล็กๆ เช่น
- เปิดไฟให้สว่างมากขึ้นในบ้าน เพื่อทดแทนแสงแดด หลอกสมองว่าได้รับแสงธรรมชาติ ช่วยลดความหม่นหมองในอารมณ์
- ออกไปรับแสงแดดบ้างในวันที่ฝนไม่ตก แม้เพียงไม่กี่นาทีก็มีผลต่อการปรับสมดุลสารสื่อประสาทในสมอง
- ฟังเพลงที่ให้พลังบวก หรือรายการพอดแคสต์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
- ใช้ช่วงเวลาฝนตกทำสิ่งที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ ทำขนม หรือเขียนบันทึก
- หมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย แม้จะอยู่ในบ้าน เช่น โยคะ หรือเต้นเบาๆ ช่วยกระตุ้นเอ็นดอร์ฟินให้รู้สึกดีขึ้น
- คุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เพื่อไม่ให้รู้สึกโดดเดี่ยว
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากรู้สึกว่าตัวเองมีอาการซึมเศร้ารุนแรงหรือยาวนานกว่าปกติ
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ ฝนจะตกอีกนานแค่ไหน แต่คือเราจะกอดใจตัวเองให้อบอุ่นได้อย่างไรในวันฝนพรำ หันมาดูแลใจตัวเองจากความรู้สึกเศร้าหม่นในวันฝนตก พร้อมดูแลร่างกายจากโรคภัยที่มากับอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะสุขภาพใจและสุขภาพกายต่างก็สำคัญไม่แพ้กัน ทิพยประกันภัย ขอเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่อยู่เคียงข้างคุณด้วยประกันสุขภาพที่เข้าใจทุกความไม่แน่นอนในชีวิต
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
- เบิกค่าห้อง ค่ายา และค่าตรวจวินิจฉัยได้ตามแผนที่คุณเลือก
- มีหลากหลายแผนให้เลือกตามงบและไลฟ์สไตล์
- พร้อมบริการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย
ยินดีแนะนำให้คำปรึกษา เช็กความคุ้มครองได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร 1736 ให้ทิพยประกันภัย ดูแลคุณและคนที่คุณรักในทุกฤดู