รู้ทันมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรม ดีอย่างไรใครบ้างที่ควรตรวจ
มะเร็งเต้านมเป็นหนึ่งในโรคร้ายที่ผู้หญิงทั่วโลกและในไทยต่างให้ความกังวล แต่ในความน่ากังวลนั้นก็ยังมีข่าวดี เพราะเป็นโรคที่สามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรียกว่าแมมโมแกรม ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แล้วการตรวจแมมโมแกรมคืออะไรกันแน่ วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญมาให้ครบ ทั้งความสำคัญ ขั้นตอนการเตรียมตัว และใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจนี้
แมมโมแกรมคืออะไร
การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) คือ การเอกซเรย์เต้านมโดยใช้เครื่องมือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะซึ่งใช้ปริมาณรังสีในระดับต่ำที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เพื่อถ่ายภาพเนื้อเยื่อเต้านมในมุมต่างๆ เทคโนโลยีนี้มีความไวสูง สามารถตรวจหาความผิดปกติขนาดเล็กที่อาจยังคลำไม่พบได้ เช่น ก้อนเนื้อ หินปูน หรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งเต้านม ทำให้การตรวจแมมโมแกรมเป็นการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพสูง
ความสำคัญของการตรวจแมมโมแกรม
การตระหนักรู้และเข้ารับการตรวจแมมโมแกรมอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้กับมะเร็งเต้านม เพราะการตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสู่การรักษาที่ประสบความสำเร็จ โดยมีความสำคัญหลักๆ ดังนี้
ช่วยให้ตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
ข้อดีที่สุดของการทำแมมโมแกรม คือความสามารถในการค้นพบความผิดปกติได้ก่อนที่ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการหรือคลำเจอก้อนด้วยตัวเอง ซึ่งการตรวจเจอตั้งแต่เซลล์มะเร็งยังมีขนาดเล็กและยังไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จะทำให้แผนการรักษามีความซับซ้อนน้อยลง และมีโอกาสหายขาดสูงขึ้น
เพิ่มอัตราการรอดชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานทางการแพทย์จำนวนมากยืนยันตรงกันว่า การตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมเป็นประจำสัมพันธ์กับอัตราการรอดชีวิตที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน เพราะการเจอเร็ว รักษาเร็ว ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการรอจนอาการแสดงออกมาแล้ว ซึ่งอาจเป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปแล้ว
ลดความรุนแรงของการรักษา
เมื่อตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น อาจทำให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้า (Mastectomy) แต่อาจใช้วิธีผ่าตัดแบบสงวนเต้า (Lumpectomy) แทนได้ รวมไปถึงอาจลดความจำเป็นในการทำเคมีบำบัดหรือการฉายแสง ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี
ใครบ้างที่ควรตรวจแมมโมแกรม
แม้ว่าการตรวจแมมโมแกรมจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องตรวจเป็นประจำ โดยกลุ่มที่แพทย์มักแนะนำให้เข้ารับการตรวจคัดกรอง มีดังนี้
- ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเริ่มปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการตรวจ และแนะนำให้ตรวจเป็นประจำทุก 1-2 ปี
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวสายตรง (แม่, พี่สาว, น้องสาว, ลูกสาว) เคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่
- ผู้ที่เคยคลำพบก้อนเนื้อหรือความผิดปกติบริเวณเต้านมด้วยตนเอง
- ผู้ที่เคยมีประวัติป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมาแล้วหนึ่งข้าง เพื่อเฝ้าระวังการกลับมาเป็นซ้ำหรือการเกิดใหม่ในอีกข้าง
- ผู้ที่เคยรับการฉายรังสีบริเวณหน้าอกเพื่อรักษาโรคอื่นก่อนอายุ 30 ปี
- ผู้ที่ได้รับการยืนยันว่ามียีนกลายพันธุ์ที่เพิ่มความเสี่ยง เช่น BRCA1 หรือ BRCA2
ข้อดีและข้อจำกัดของการตรวจแมมโมแกรม
เช่นเดียวกับการตรวจทางการแพทย์อื่นๆ การทำแมมโมแกรมก็มีทั้งข้อดีที่โดดเด่นและข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบไว้เพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมก่อนตัดสินใจเข้ารับการตรวจ
ข้อดีของการตรวจแมมโมแกรม
- เป็นวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่ได้รับการยอมรับและมีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน
- สามารถตรวจพบหินปูน (Microcalcifications) ในเต้านม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มของมะเร็งบางชนิด
- เป็นกระบวนการที่ไม่ต้องมีการผ่าตัดหรือฉีดสารใดๆ เข้าสู่ร่างกาย (Non-invasive)
- ใช้เวลาในการตรวจไม่นาน และสามารถทราบผลได้ค่อนข้างรวดเร็ว
ข้อจำกัดของการตรวจแมมโมแกรม
- ผู้เข้ารับการตรวจจะได้รับรังสีเอกซเรย์ในปริมาณเล็กน้อย แม้จะถือว่าปลอดภัยมาก แต่ก็ยังคงเป็นรังสี
- อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บเล็กน้อยขณะที่เครื่องทำการบีบเต้านม
- อาจเกิดผลบวกลวง (False Positive) คือผลตรวจบ่งชี้ว่าอาจมีสิ่งผิดปกติ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่มี ทำให้ต้องมีการตรวจเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นและสร้างความวิตกกังวล
- อาจเกิดผลลบลวง (False Negative) โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น (Dense Breast) ซึ่งอาจบดบังความผิดปกติบางอย่างได้
เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องตรวจแมมโมแกรม
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ขั้นตอนการตรวจแมมโมแกรมเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด หากคุณมีนัดตรวจเร็วๆ นี้ ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆ ต่อไปนี้
เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม
ควรนัดตรวจในช่วง 1 สัปดาห์หลังหมดประจำเดือน เพราะเป็นช่วงที่เต้านมมีความคัดตึงน้อยที่สุด จะช่วยลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการตรวจแมมโมแกรมได้ และควรหลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงก่อนมีประจำเดือน
งดใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
ในวันตรวจ ห้ามทาโรลออน สเปรย์ระงับกลิ่นกาย โลชั่น หรือแป้งบริเวณรักแร้และหน้าอกเด็ดขาด เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจมีส่วนผสมของโลหะที่สามารถปรากฏบนฟิล์มเอกซเรย์และรบกวนการแปลผลได้
สวมเสื้อผ้าที่สะดวกสบาย
ควรเลือกใส่เสื้อผ้าแบบสองชิ้น คือเสื้อและกระโปรงหรือกางเกง เพื่อความสะดวกในการถอดเปลี่ยนเฉพาะเสื้อท่อนบน ไม่ต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมด ทำให้คุณรู้สึกสบายใจและคล่องตัวมากขึ้น
แจ้งข้อมูลสำคัญกับเจ้าหน้าที่
ก่อนเริ่มการตรวจ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่รังสีเทคนิคให้ทราบหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์ มีการเสริมเต้านม หรือมีปัญหาหรือความกังวลใดๆ เกี่ยวกับเต้านมของคุณ เพื่อการดูแลที่เหมาะสม
สรุปบทความ
การตรวจแมมโมแกรมถือเป็นเครื่องมือป้องกันเชิงรุกที่ทรงพลังในการดูแลสุขภาพและรับมือกับมะเร็งเต้านมได้อย่างทันท่วงที การเข้าใจว่าแมมโมแกรมคืออะไรและใส่ใจเข้ารับการตรวจเมื่อถึงวัยที่เหมาะสม คือการมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และเพื่อสร้างความอุ่นใจที่ครบรอบด้าน การมีประกันสุขภาพ และประกันมะเร็ง จาก TIPINSURE ที่ครอบคลุมและเข้าใจความต้องการของคุณ จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา อำนวยความสะดวกสบายเมื่อยามเจ็บป่วยมาเยือน ไม่ว่าจะป่วยแบบไหน ก็พร้อมดูแลให้คุณก้าวผ่านทุกวิกฤตสุขภาพไปได้อย่างมั่นใจ