1 ใน 4 ของผู้หญิง มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงชีวิต
ยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในภัยเงียบที่คุกคามชีวิตผู้หญิงทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง สถิติจากองค์การอนามัยโลกเผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจ ผู้หญิงทุกๆ 4 คน จะมีอย่างน้อย 1 คนที่ต้องเผชิญกับโรคมะเร็งในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นความเสี่ยงนี้ไม่ได้จำกัดอยู่ที่อายุ หรือพันธุกรรมเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ความเครียด และสิ่งแวดล้อมรอบตัว
เมื่อความเสี่ยงอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด คุณผู้หญิงจึงต้องดูแลอย่างใส่ใจไม่เช่นนั้นอาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งมากที่สุดถึงหนึ่งในสี่เลยทีเดียว
มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย
มะเร็งเต้านม (Breast Cancer)
เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย โดยเฉพาะในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สำคัญคือโรคนี้ สามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก แต่ปัญหาคือ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยมักมาพบแพทย์เมื่อโรคลุกลามแล้ว
ความจริงที่ควรรู้ : ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมแล้วข้างหนึ่ง มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำได้ในอีกข้างหนึ่ง แต่ปัจจุบันการรักษาและการควบคุมโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มีโอกาสรักษาหายขาดได้ และเทคโนโลยีการรักษายังสามารถผ่าตัดแบบสงวนเต้าได้ หรือเสริมเต้าได้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมได้มากขึ้น
ตรวจพบเร็วช่วยให้รักษาได้ทัน : ผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนหลังหมดประจำเดือน และอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) ร่วมกับอัลตราซาวด์เต้านมเป็นประจำปีละ 1 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer)
มะเร็งที่ป้องกันได้ แต่ยังคร่าชีวิตผู้หญิงจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆ ในผู้หญิงไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 30–60 ปี ความน่ากังวลคือ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยไม่รู้ว่าตัวเองเป็น จนกว่ามะเร็งจะลุกลามเพราะระยะแรกของโรคนี้มักไม่มีอาการ
ป้องกันและตรวจคัดกรอง : มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดที่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มแรก หากได้รับวัคซีน HPV จะได้ผลดีที่สุดหากฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก (อายุ 9–26 ปี) และเข้ารับการตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) หรือ HPV DNA Test ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป และตรวจซ้ำทุก 1–3 ปี ตามคำแนะนำแพทย์
มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer)
เป็นมะเร็งที่พบได้น้อยกว่ามะเร็งเต้านมหรือมะเร็งปากมดลูก แต่กลับอันตรายกว่ามาก เพราะมักไม่มีสัญญาณเตือนในระยะแรกเริ่ม อาการที่เกิดขึ้นก็มักเป็นเพียงท้องอืด แน่นท้อง หรือปวดหน่วง ซึ่งหลายคนมักคิดว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะหรือลำไส้ ทำให้กว่า 70% ของผู้ป่วยมักถูกวินิจฉัยเมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว
ป้องกันและตรวจคัดกรอง : ปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจคัดกรองมะเร็งรังไข่ที่แม่นยำเหมือนแปปสเมียร์ของมะเร็งปากมดลูก แต่แพทย์จะใช้การตรวจภายในร่วมกับอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด (TVS) และการตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็ง (CA-125) ซึ่งใช้ประกอบการวินิจฉัย แต่ไม่แม่นยำ 100%
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (Colorectal Cancer)
มะเร็งชนิดนี้ ติดอันดับ 2 ในผู้หญิง รองจากมะเร็งเต้านม พบได้ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่อายุที่พบผู้ป่วยเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ในช่วงหลัง แต่จะพบมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่จากพฤติกรรมการกินและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น การบริโภคอาหารแปรรูป อาหารไขมันสูง และขาดการออกกำลังกาย
ป้องกันและตรวจคัดกรอง : การตรวจคัดกรองตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เป็นเรื่องสำคัญในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยการตรวจหาเลือดในอุจจาระ (FIT test) ปีละครั้ง และส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ทุก 5–10 ปี ขึ้นอยู่กับความเสี่ยง หากตรวจพบติ่งเนื้อหรือเนื้อเยื่อผิดปกติในระยะต้น ก็สามารถตัดออกได้ก่อนที่จะพัฒนาเป็นมะเร็ง
มะเร็งปอด (Lung Cancer)
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เริ่มพบในคนตั้งแต่อายุยังน้อย และในกลุ่มที่ได้รับควันบุหรี่มือสองหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษ อย่างฝุ่นควัน PM2.5
สาเหตุที่ทำให้มะเร็งปอดร้ายแรงคือ อาการระยะแรก เช่น ไอเล็กน้อย เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกแน่นหน้าอก ซึ่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไข้หวัดหรือโรคทางเดินหายใจทั่วไป ทำให้กว่าจะตรวจพบ โรคมักลุกลามไปยังปอดข้างอื่นหรือกระจายไปยังอวัยวะอื่นแล้ว
ป้องกันและตรวจคัดกรอง : เอกซเรย์ปอดด้วยคอมพิวเตอร์แบบความละเอียดต่ำ (Low-dose CT scan) สามารถตรวจพบมะเร็งระยะแรกได้ดีกว่าเอกซเรย์ปอด
เพราะชีวิตมีค่า ประกันภัยโรคมะเร็งช่วยเพิ่มความอุ่นใจ
สถิติผู้ป่วยมะเร็งในไทยยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี และผู้หญิง 1 ใน 4 มีโอกาสเผชิญโรคมะเร็งอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต มะเร็งไม่ได้กระทบแค่สุขภาพกายและใจ แต่ยังหมายถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก เช่น ค่าผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายแสง ที่อาจใช้เวลาหลายเดือนถึงหลายปี หากไม่มีหลักประกันที่ดีรองรับไว้ล่วงหน้าทำคุณหมดตัวแน่นอน ประกันภัยโรคมะเร็งไม่ใช่แค่การจ่ายเงินเมื่อเจ็บป่วย แต่เป็นการวางแผนชีวิตที่สำคัญ
ประกันมะเร็ง แบบไหนที่เหมาะกับคุณ ?
แบบจ่ายเงินก้อน (เจอ จ่าย จบ)
ประกันมะเร็งประเภทนี้จะจ่ายเงินก้อนให้ทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตามเงื่อนไขกรมธรรม์ โดยไม่ต้องยื่นใบเสร็จค่ารักษา ไม่ต้องเบิกย้อนหลัง คุณสามารถนำเงินก้อนนี้ไปใช้ได้ตามต้องการ เช่น ใช้รักษาในโรงพยาบาลที่เลือกเอง ซื้อยาพิเศษ พักรักษาตัว หรือแม้แต่ใช้เป็นรายได้ทดแทนช่วงหยุดงาน
แบบคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริง
รูปแบบนี้จะเน้นจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายแสง ค่าห้อง ค่าแพทย์ หรือเวชภัณฑ์ต่างๆ ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มใช้บริการโรงพยาบาลบ่อย หรือมีประกันสุขภาพเดิมอยู่แล้ว แต่อยากเสริมความคุ้มครองเฉพาะโรคมะเร็งให้ครอบคลุมมากขึ้น
ประกันภัยโรคมะเร็ง TIP Cancer Plus จากทิพยประกันภัย
หนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนยุคใหม่ ที่ต้องการความคุ้มครองเฉพาะทางอย่างตรงจุด ประกันภัยโรคมะเร็ง TIP Cancer Plus ที่ให้ความคุ้มครองครบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงระยะลุกลาม จ่ายเงินก้อนทันทีเมื่อพบว่าเป็นมะเร็งตามเงื่อนไข และช่วยให้คุณวางแผนรักษาได้อย่างอิสระ เบี้ยประกันเริ่มต้นหลักร้อยต่อปีแต่ให้ความคุ้มครองหลักแสนหลักล้าน สามารถขอคำปรึกษาหรือเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันด้วยตัวเองที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736
ขอบคุณข้อมูลจาก : WHO องค์การอนามัยโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก : Phyathai 3 Hospital
ขอบคุณข้อมูลจาก : Paolo Hospital