เช็กง่ายๆ สถานที่ตรวจสภาพรถไหนที่ใกล้ฉัน
เมื่อต้องต่อภาษีประจำปี ก็ถึงเวลาที่ต้องนำรถยนต์ของคุณไป “ตรวจสภาพรถ” กันแล้ว ซึ่งสำหรับคนที่มีรถใช้รถ การตรวจสภาพรถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง หรือก็คือก่อนการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์และชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ซึ่งเจ้าของรถยนต์สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพรถได้ทั้งในสถานตรวจสภาพรถยนต์ของเอกชน (ตรอ.) หรือไม่ก็ที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก
แน่นอนว่าการตรวจสภาพรถยนต์แต่ละครั้งต้องหาสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ที่อยู่ใกล้ๆ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ที่ไหนที่ใกล้ฉัน?
ความจริงสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ที่ได้มาตรฐานซึ่งอยู่ใกล้ตัวหาได้ไม่ยาก แถมยังเช็กได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองอีกด้วย
ทำไมจึงต้องตรวจสภาพรถยนต์
ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 กำหนดเอาไว้ชัดเจนว่า รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 7 ปีต้องตรวจเช็กสภาพรถยนต์ทุกครั้งก่อนจะยื่นชำระภาษี โดยเจ้าของรถสามารถนำรถยนต์ไปตรวจสภาพรถยนต์ได้ล่วงหน้าเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษี ดังนั้นรถยนต์ที่มีอายุเกินกว่า 7 ปีนับตั้งแต่วันจดทะเบียนจึงต้องนำไปตรวจสภาพที่สถานที่ตรวจสภาพรถยนต์เอกชน (ตรอ.) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสามารถนำไปตรวจสภาพได้ที่สถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์ที่ใกล้ที่สุด
นอกจากเราจำเป็นต้องตรวจสภาพรถยนต์เพื่อต่อภาษีรถยนต์แล้ว หากต้องการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ยังจำเป็นต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเช่นกัน ซึ่งสามารถเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ได้ที่สถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์ในเครือของบริษัทประกันได้
และไม่ใช่แค่การตรวจสภาพรถยนต์เพื่อดำเนินการต่อภาษีหรือประกันภัยรถยนต์เท่านั้น การตรวจสภาพรถยนต์ยังทำให้เราทราบสภาพรถยนต์ของเรา เพื่อจะได้ซ่อมแซมปรับปรุงในส่วนที่มีปัญหาชำรุดสึกหรอได้อีกด้วย
แล้วรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถยนต์หรือไม่
รถยนต์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนี้จะสึกหรอไปตามการใช้งาน ซึ่งแม้จะสามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์เบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง แต่เราไม่มีทางทราบเลยว่าภายในมีอะไรที่ไม่พร้อมใช้งานหรือเปล่า ต้องเปลี่ยนอะไหล่ส่วนไหนหรือไม่ จนกว่าจะนำไปตรวจเช็กที่สถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากช้าเกินไปก็อาจสายเกินแก้
ดังนั้นการนำรถยนต์ไปตรวจเช็กสภาพรถยนต์ตามกำหนดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย แม้จะเป็นรถยนต์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ก็ตาม เพื่อไม่ให้รถยนต์เกิดปัญหาขณะขับขี่ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
สามารถนำรถยนต์ไปตรวจสภาพรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง
แม้จะมีอู่ซ่อมรถมากมายหลายแห่งทั่วประเทศ แต่การนำรถยนต์ไปตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีประจำปีหรือทำประกันภัยรถยนต์นั้น ต้องนำไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบก หรือสถานที่ตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ซึ่งรถยนต์ประเภทใดควรนำไปตรวจสภาพรถยนต์ที่ไหน ทางกรมการขนส่งทางบกมีข้อกำหนดดังนี้
- รถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกประเภท สามารถนำไปตรวจสภาพรถยนต์ที่สถานที่ตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือกับหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้
- รถที่จดทะเบียนตามกฎหมายประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ ต้องตรวจสภาพรถยนต์ที่สถานที่ตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
- รถยนต์ที่จดทะเบียนตามกฎหมายประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ที่ได้รับการยกเว้น สามารถตรวจสภาพรถยนต์ที่สถานที่ตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก ได้แก่
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกินกว่า 1,600 กิโลกรัม
- รถของส่วนราชการ องค์การระหว่างประเทศ คณะผู้แทนทางการทูต คณะผู้แทนกงสุล ฯลฯ
- รถยนต์ที่จดทะเบียนตามกฎหมายประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ที่ต้องตรวจสภาพรถยนต์กับหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกโดยตรง ได้แก่ รถที่มีการดัดแปลงสภาพ เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่องยนต์ รถที่มีปัญหากับเลขตัวถัง เลขรถยนต์ รถที่ขาดการต่ออายุทะเบียนเกิน 1 ปี และรถประเภทที่ไม่เข้าเงื่อนไขใดๆ ใน 3 ข้อแรก
เช็กอย่างไร? สถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ไหนที่ใกล้ฉัน
สำหรับลูกค้าของบริษัททิพยประกันภัย ทางบริษัทมีบริการสำหรับค้นหาสถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์เอกชนที่ได้มาตรฐานและอยู่ในความดูแลของบริษัท เพื่อให้คุณสามารถตรวจเช็กได้ด้วยตัวเองว่ามีสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ไหนที่ใกล้ฉัน ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
การค้นหาสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ที่ใกล้คุณผ่านทางเว็บไซต์
ขั้นตอนที่ 1 เข้าเว็บไซต์ https://www.dhipaya.co.th/
ขั้นตอนที่ 2 เลือก “ติดต่อทิพย” ตรงแถบสีน้ำเงินด้านบน จากนั้นเลือก “ตรอ. โครงการขาย พ.ร.บ.”
ขั้นตอนที่ 3 คุณจะเข้าสู่หน้าเว็บไซต์สำหรับค้นหาสถานที่ตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) จากนั้นสามารถหาสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ใกล้คุณได้ด้วยการใส่ชื่อสถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์เอกชนตรงช่อง “ชื่อตรอ.” หรือหากไม่ทราบสามารถเว้นเอาไว้ แล้วเลือก “ภาค” และ “จังหวัด” ที่ท่านอาศัยได้
ขั้นตอนที่ 4 เมื่อกรอก “ชื่อตรอ.” เลือก “ภาค” และ “จังหวัด” ที่ต้องการแล้ว หน้าเว็บไซต์จะแสดงสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์เอกชนที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะมีทั้งรายชื่อสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ ช่องทางการติดต่อ และสามารถตรวจสอบเส้นทางไปยังสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์เอกชนที่ใกล้คุณที่สุดได้
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเลือกใช้บริการตรวจสภาพรถกับสถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์ที่ใกล้คุณได้ง่ายๆ เพื่อจะได้ตรวจสภาพรถยนต์ให้เรียบร้อยทั้งสำหรับต่อภาษีประจำปี สำหรับการซื้อประกันภัยรถยนต์ และตรวจสภาพรถยนต์สำหรับแก้ไขซ่อมแซมรถยนต์ให้กลับมาสมบูรณ์ พร้อมแก่การใช้งาน ลองคลิกเพื่อดูแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้เลยที่นี่