เปิดไฟอะไรดีตอนฝนตก? ไฟหน้า ไฟตัดหมอก หรือไฟฉุกเฉิน
เปิดไฟอะไรดีตอนฝนตก? ไฟหน้า ไฟตัดหมอก หรือไฟฉุกเฉิน เลือกผิดเสี่ยงอันตรายโดยไม่รู้ตัวได้นะ ช่วงนี้ฝนเทกระหน่ำแทบทุกวัน ถนนก็ลื่น ทัศนวิสัยแย่ การเปิดไฟรถอย่างเหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของมารยาทบนท้องถนน แต่คือเรื่องของความปลอดภัยที่อาจช่วยชีวิตคุณและผู้ร่วมทาง แต่หลายคนกลับยังสับสนว่าควรเปิดไฟแบบไหนถึงจะถูกต้อง
TIPINSURE พาคุณไปไขคำตอบ พร้อมเหตุผลว่าทำไมการเลือกเปิดไฟให้ถูกสถานการณ์ จึงสำคัญกว่าที่คุณคิด
ไฟหน้า (Headlights) พื้นฐานที่ควรเปิดทันที
เมื่อฝนเริ่มตก ไม่ว่าจะเบา ปานกลาง หรือแม้กระทั่งตกหนักในช่วงเวลากลางวัน สิ่งแรกที่ควรทำคือ เปิดไฟหน้า เพราะไฟหน้าจะช่วยให้รถของคุณมองเห็นได้จากระยะไกล เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งตัวคุณและรถคันอื่นที่อยู่รอบข้าง โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและทัศนวิสัยไม่ดี การมีไฟหน้าส่องสว่างอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเฉี่ยวชนหรือเบรกไม่ทัน
ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการใช้ไฟสูง (High Beam) ขณะฝนตก เพราะแสงจะสะท้อนกับเม็ดฝนในอากาศ ส่งผลให้แยงตาทั้งตัวคุณเองและผู้ขับขี่คนอื่น ทำให้มองเห็นได้น้อยลงแทนที่จะมากขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุโดยไม่รู้ตัว
ไฟตัดหมอก (Fog Lights) ใช้เมื่อฝนตกหนักหรือหมอกลงจัด
ไฟตัดหมอกออกแบบมาเพื่อช่วยในการขับขี่ในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น ฝนตกหนักมาก หรือมีหมอกหนาจนมองทางไม่ชัด โดยให้ลำแสงต่ำและกระจายกว้าง ช่วยส่องสว่างใกล้พื้นถนนโดยไม่แยงตา ช่วยให้คุณมองเห็นเส้นทาง ขอบถนน หรือสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาอยู่บนทางภูเขาหรือพื้นที่ที่หมอกลงจัด
ข้อควรระวัง: ไฟตัดหมอกไม่ควรเปิดโดยไม่จำเป็น เพราะอาจรบกวนสายตารถคันอื่นได้ โดยเฉพาะไฟตัดหมอกหลังที่มีความสว่างสูง ควรใช้เฉพาะเมื่อทัศนวิสัยแย่จริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือเพิ่มความเสี่ยงบนท้องถนน
ไฟฉุกเฉิน อย่าเปิดขณะขับรถฝ่าฝน!
ไฟฉุกเฉินมีไว้สำหรับแจ้งเตือนเมื่อรถเกิดเหตุจำเป็น เช่น จอดเสียกลางทาง ประสบอุบัติเหตุ หรือหยุดนิ่งในตำแหน่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเท่านั้น ไม่ควรเปิดขณะขับรถฝ่าฝน แม้จะรู้สึกว่าทัศนวิสัยแย่หรือมองเห็นได้ลำบาก เพราะการเปิดไฟฉุกเฉินในขณะเคลื่อนที่อาจทำให้ผู้ขับคันอื่นเข้าใจผิด คิดว่ารถของคุณจอดนิ่งอยู่กลางถนน หรือกำลังเกิดปัญหา ส่งผลให้เกิดความสับสน ตัดสินใจผิดพลาด และเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
ข้อแนะนำ: หากต้องการเพิ่มความปลอดภัยขณะขับฝนตก ควรเลือกเปิดไฟหน้าและไฟตัดหมอกแทน เพื่อให้ทั้งคุณและผู้อื่นมองเห็นกันได้ชัดเจน โดยไม่สร้างความเข้าใจผิดหรือรบกวนสายตาผู้อื่นบนถนน
ทำไมต้องเปิดไฟเมื่อฝนตก?
1. ทัศนวิสัยแย่ลงทันทีเมื่อฝนตก
เมื่อฝนเริ่มตกเม็ดฝนที่เกาะบนกระจกหน้ารถจะลดความสามารถในการมองเห็นของผู้ขับอย่างชัดเจน และหากฝนตกหนั ม่านฝนจะบดบังสายตาจนทำให้ระยะการมองเห็นสั้นลงอย่างมาก ขณะเดียวกันถนนที่มีน้ำจะสะท้อนแสงมากกว่าปกติ ยิ่งทำให้แยกแยะวัตถุหรือสิ่งกีดขวางได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีแสงน้อย เช่น ตอนเย็นหรือกลางคืน
การเปิดไฟหน้า (หรือไฟตัดหมอกในบางกรณี) จะช่วยให้รถของคุณเด่นขึ้น แม้จะอยู่ไกลออกไป
2. ช่วยให้ผู้ร่วมทางมองเห็นรถของคุณได้ชัดเจน
การเปิดไฟรถในขณะฝนตกไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อส่องทางให้ผู้ขับขี่มองเห็นเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงตัวตนให้ผู้ร่วมทางบนถนนรับรู้ถึงตำแหน่งรถคุณได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการเฉี่ยวชนหรือการหลีกเลี่ยงไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คุณขับรถสีเข้มหรือรถขนาดเล็ก มักจะกลมกลืนไปกับพื้นถนนในวันที่ฝนตกหนักและทัศนวิสัยเลวร้าย
3. ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการเบรกกะทันหันหรือเปลี่ยนเลน
หากรถคันหลังมองไม่เห็นรถของคุณอย่างชัดเจน ก็ไม่สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทันเมื่อคุณชะลอความเร็วหรือหยุดรถอย่างกะทันหัน หรือในกรณีที่คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนเลน ไฟจะช่วยระบุตำแหน่งของรถคุณได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้รถคันข้างๆ รับรู้การเคลื่อนที่ของคุณได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับรถขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกที่มีจุดบอด การมองเห็นไฟที่เปิดอยู่จะช่วยให้สังเกตเห็นรถของคุณได้ชัดเจนมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการเบียดหรือเฉี่ยวชน
4. ช่วยให้คุณเห็นทางได้ดีขึ้น
นอกจากจะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถของคุณได้แล้ว การเปิดไฟในช่วงฝนตกยังช่วยให้คุณมองเห็นทางข้างหน้าได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามัวจากฝน แม้จะยังไม่มืดสนิท ไฟหน้าจะช่วยให้คุณมองเห็นเส้นแบ่งช่องจราจร ทางโค้ง หรือสิ่งกีดขวางบนถนนได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ไฟตัดหมอกด้านหน้าจะช่วยกระจายแสงลงต่ำ ส่องผ่านม่านฝนหรือหมอกลงสู่พื้นถนนโดยไม่สะท้อนเข้าตา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ในสภาพอากาศที่ทัศนวิสัยแย่
5. การเปิดไฟหน้าขณะฝนตก อาจเป็นข้อบังคับตามกฎหมายจราจร
การเปิดไฟหน้ารถในขณะฝนตกไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ถือเป็นข้อบังคับตามกฎหมายจราจรอีกด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดจากทัศนวิสัยต่ำในสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งยังช่วยสร้างวินัยและความปลอดภัยร่วมกันบนท้องถนน
ฝนตกหนักแค่ไหน ต้องไม่ลืมประกันรถยนต์
แม้คุณจะขับรถอย่างระมัดระวัง เปิดไฟอย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามกฎจราจรทุกข้อ แต่อุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะในช่วงฝนตกก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งจากความลื่นของถนน ทัศนวิสัยที่แย่ หรือความผิดพลาดของผู้อื่น ดังนั้นการมีประกันภัยรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ทุกเส้นทางของคุณ
แนะนำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จากทิพยประกันภัย เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ทั้งรถของคุณและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชน รถชนหนัก หรือแม้แต่น้ำท่วม พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน และยังพ่วงความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต และอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ขับขี่มั่นใจมากขึ้นในทุกสภาพอากาศ ด้วยประกันที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกความเสี่ยงบนถนน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736