อัปเดต! ขั้นตอนการฝึกอบรมใบขับขี่ออนไลน์ประจำปี 2565
17 สิงหาคม 2022
ผู้ชม: 74307 คน

 

อัปเดต! ขั้นตอนการฝึกอบรมใบขับขี่ออนไลน์ประจำปี 2565

 

            สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่รถยนต์ เมื่อใบขับขี่หมดอายุก็ต้องไปทำเรื่องต่อใบขับขี่กันที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งตามปกติแล้วจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ทั้งต้องรอคิว และต้องฟังการฝึกอบรมใบขับขี่อีกด้วย การฝึกอบรมใบขับขี่แต่ละครั้งนั้นใช้เวลานานเป็นชั่วโมง ดังนั้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทางกรมการขนส่งทางบกจึงปรับปรุงการให้บริการ ทำให้ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่สามารถเข้ารับการฝึกอบรมใบขับขี่ได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งทั้งสะดวกและรวดเร็ว เมื่อไปติดต่อขอต่อใบขับขี่จึงไม่ต้องเสียเวลาเข้ารับการฝึกอบรมอีก

               ขั้นตอนการฝึกอบรมใบขับขี่ออนไลน์ แบบอัปเดตปี 2565 นั้นก็ไม่ยุ่งยาก ดำเนินการได้เองง่ายๆ ช่วยประหยัดได้อย่างดี

 

               ควรต่ออายุใบขับขี่ตอนไหน

               เมื่อใบขับขี่ใกล้จะหมดอายุ หลายคนคงสงสัยว่าจะต้องไปต่ออายุเมื่อไร ซึ่งตามกฎหมายระบุเอาไว้ดังนี้

  1. สามารถต่ออายุใบขับขี่ได้ก่อนหมดอายุไม่เกิน 90 วัน
  2. สามารถต่ออายุใบขับขี่ได้เมื่อใบขับขี่หมดอายุแล้วไม่เกิน 1 ปี แต่ถ้าหากใบขับขี่หมดอายุเกิน 2 ปี จะต้องเข้ารับการฝึกอบรมใบขับขี่เป็นเวลา 2 ชั่วโมง และต้องเข้ารับการทดสอบข้อเขียนหรือทดสอบปฏิบัติแล้วแต่กรณี

ถ้าหากเช็กแล้วว่าถึงเวลาต้องต่อใบขับขี่ ก็ไปเข้ารับการฝึกอบรมใบขับขี่ออนไลน์กันล่วงหน้าได้เลย

 

ขั้นตอนการฝึกอบรมใบขับขี่ออนไลน์

  1. เข้าไปยังเว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/
  2. เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์แล้ว ถ้าหากยังไม่เคยลงทะเบียนให้เลือก “ลงทะเบียนใหม่” แต่ถ้าหากเคยลงทะเบียนแล้ว ให้เลือก “เข้าสู่ระบบ” เพื่อไปยังหน้าถัดไป

     
  3. เมื่อเลือก “ลงทะเบียนใหม่” ระบบจะให้ระบุเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และวันเดือนปีเกิดของคุณ

     
  4. จากนั้นจึงกรอก “เลขบัตรประชาชน” และ “วันเดือนปีเกิด” ของคุณเพื่อเข้าสู่ระบบ

     
  5. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว จะเข้าสู่หน้าหลักสูตรฝึกอบรมใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งจะมีให้เลือก 4 หลักสูตร ได้แก่ 

    ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล เป็นการต่ออายุใบขับขี่ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ และรถยนต์ ใช้เวลาอบรม 1 ชั่วโมง
    ใบอนุญาตขับรถขนส่ง เป็นการต่ออายุใบขับขี่ผู้ขับรถส่วนบุคคลชนิด 1 – 4, ผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1 – 4 ซึ่งจะใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง
    ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี เป็นการต่ออายุใบขับขี่ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ และรถยนต์ที่ขาดการต่ออายุเกิน 1 ปี ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง
    ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ เป็นการต่ออายุรถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถยนต์สาธารณะ ใช้ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง

  6. เมื่อเลือกหลักสูตรที่ตรงกับใบขับขี่ของคุณแล้ว ก็เริ่มเข้ารับการอบรมได้เลย โดยเลือกที่ “ดำเนินการต่อ” เพื่อเข้าชมวิดีโอการฝึกอบรมใบขับขี่
  7. รับชมวิดีโอหลักสูตรการฝึกอบรมใบขับขี่จนจบทุกส่วน ซึ่งการรับชมวิดีโอการอบรมนี้ สามารถเข้ารับชมได้ในช่วงเวลาที่สะดวก
  8. ระหว่างการรับชม จะมีแบบทดสอบขึ้นมาให้คุณเลือกคำตอบเป็นระยะๆ ซึ่งแต่ละข้อ มีเวลาให้ประมาณ 3 นาที
  9. เมื่อจบในแต่ละส่วน ระบบจะให้คุณกด “ยืนยัน” ภายใน 3 นาที เพื่อไปสู่การฝึกอบรมใบขับขี่ส่วนถัดไป
  10. เมื่ออบรมจนครบเวลาที่กำหนดแล้ว คุณสามารถทบทวนการฝึกอบรมใบขับขี่ได้ หรือเลือก “หลักฐานการผ่านอบรม” เพื่อทำแบบทดสอบอีกครั้ง
  11. หากทำแบบทดสอบได้ถูกต้อง จะได้รับหลักฐานยืนยันการผ่านการฝึกอบรมใบขับขี่ คุณสามารถบันทึกหลักฐานได้ด้วยการถ่ายภาพ บันทึกภาพ เพื่อนำไปแสดงในวันที่ไปต่อใบขับขี่ โดยหลักฐานดังกล่าวจะมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรม
  12. เมื่อเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน คุณสามารถนำหลักฐานการผ่านการฝึกอบรบใบขับขี่ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานที่สำนักงานขนส่งในวันเวลาที่คุณไปต่อใบขับขี่ได้ทันที โดยคุณจะข้ามขั้นตอนการฝึกอบรมใบขับขี่ไปยังขั้นตอนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น

 

รู้หรือไม่ จองคิวต่อใบขับขี่ได้แล้ว!

               นอกจากการฝึกอบรมใบขับขี่ออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาเมื่อต้องทำใบขับขี่แล้ว เดี๋ยวนี้ยังสามารถจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ได้อีกด้วย โดยการใช้แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเข้าเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th แล้วลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อเข้าใช้บริการ ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อนเช่นกัน

  1. ลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ โดยการเลือกประเภทผู้ใช้งาน และกรอกข้อมูลส่วนตัว
  2. เข้าสู่ระบบ แล้วเลือกสำนักงานขนส่งที่คุณสะดวกจะเข้ารับบริการ
  3. จากนั้นเลือกประเภทของงานบริการ ถ้าหากต้องการต่อใบขับขี่ให้เลือก “งานใบอนุญาต” > “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล” > “ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ” แล้วเลือกประเภทยานพาหนะที่คุณต้องการต่อใบอนุญาต จากนั้นจึงกรอกวันหมดอายุ และชนิดของรถ
  4. เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วน จึงเลือกวันเวลาที่คุณสะดวกเข้ารับบริการ

               นอกจากจากจองคิวเข้ารับการฝึกอบรมใบขับขี่แล้ว คุณยังสามารถจองคิวเพื่อไปทำธุรกรรมอื่นได้เช่นกัน เช่น การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ การเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ทั้งเพื่อต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ หรือทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งช่วยให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้อง Walk-in เข้าไปนั่งรถคิวนานๆ อีกต่อไป

               เมื่อต่อใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เรียบร้อยแล้ว หากต้องการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ หรือทำ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  TIPINSURE

 

 

 

 

 

 

 

#Tag: