ประกันภัยบ้านแบบไหน? เหมาะกับคนอยู่คนเดียว
08 กรกฎาคม 2025
ผู้ชม: 3 คน

ประกันภัยบ้านแบบไหน? เหมาะกับคนอยู่คนเดียว

อยู่คนเดียวก็เอาอยู่ แต่ถ้าบ้านเกิดไฟไหม้ตอนกลางคืน ท่อน้ำแตกตอนคุณไม่อยู่บ้าน แบบนี้ยังจะรับมือไหวอยู่ไหม?

การใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในบ้านหรือคอนโดให้ปลอดภัย ไม่ได้มีแค่กล้องวงจรปิดหรือกลอนประตูแน่นหนา แต่ ประกันภัยบ้าน คืออีกหนึ่งเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในวันที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ท่อประปาแตก น้ำท่วมฉับพลัน หรือแม้แต่เหตุไม่คาดคิดอย่างไฟไหม้หรือโจรกรรม

แต่ประกันภัยบ้านก็มีให้เลือกหลากหลาย แล้วจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนอยู่คนเดียว ทั้งสะดวก คุ้มค่า และดูแลได้ครอบคลุม TIPINSURE พาคุณไปรู้จักประกันภัยบ้านที่ออกแบบมาเพื่อคนอยู่ลำพังโดยเฉพาะ พร้อมแนะเคล็ดลับเลือกให้เหมาะกับบ้านและการใช้ชีวิตของคุณ เพราะในวันที่ไม่มีใครอยู่ด้วยอย่างน้อยให้ประกันอยู่เคียงข้างคุณเสมอ

 

เหตุผลทำไมคนอยู่คนเดียวจึงควรทำประกันภัยบ้าน?

การใช้ชีวิตอยู่คนเดียว แม้จะเงียบสงบและมีอิสระ แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบเต็มร้อย เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในบ้าน ไม่มีคนช่วยแบ่งเบาภาระได้เหมือนกับการอยู่ร่วมกันหลายคน ประกันภัยบ้านคือหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้คนอยู่ลำพังรู้สึกมั่นใจและอุ่นใจมากขึ้นในทุกวัน

ความเสี่ยงที่ไม่มีใครช่วยแบกรับ

หากคุณอยู่คนเดียวต้องรับมือกับทุกปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะไฟไหม้ น้ำรั่ว ซ่อมแซมหลังพายุ หรือแม้แต่การถูกโจรขึ้นบ้าน ซึ่งหากไม่มีประกันภัยบ้าน คุณต้องจ่ายเองทั้งหมด และยังต้องจัดการเรื่องเอกสาร เคลม และหาช่างซ่อมอีกด้วย

ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นทันที

ความเสียหายจากเหตุฉุกเฉิน เช่น เพลิงไหม้หรือท่อประปาแตก อาจทำให้คุณต้องจ่ายเงินหลายหมื่นถึงแสนบาท โดยไม่มีเวลาเตรียมตัว ประกันภัยบ้านจะช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้แทนคุณ ทำให้ไม่ต้องควักเงินก้อนเองในช่วงเวลาคับขัน

เหตุไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นได้แม้ในบ้านตัวเอง

แม้จะอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเสี่ยง แต่ภัยต่างๆ ก็เกิดขึ้นได้ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร น้ำท่วมจากฝนตกหนัก หรือกระจกแตกจากแรงลม บ้านจึงไม่ใช่ที่ปลอดภัยเสมอไป และการมีประกันภัยคือการเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด

 

ประกันภัยบ้านมีกี่ประเภท และต่างกันอย่างไร?

การเลือกประกันบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ควรเริ่มต้นจากการเข้าใจประเภทความคุ้มครอง ซึ่งแบ่งหลักๆ ได้ 4 ประเภท

1. ประกันคุ้มครองโครงสร้าง (Structure Insurance)

คุ้มครองเฉพาะ ตัวบ้าน ไม่รวมของภายใน เช่น กำแพง พื้น หลังคา ท่อน้ำ ระบบไฟฟ้าฯลฯ เหมาะกับผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน และต้องการคุ้มครองเมื่อเกิดภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว

  • ข้อดี : เบี้ยประกันไม่สูง
  • ข้อจำกัด : ไม่คุ้มครองของใช้หรือทรัพย์สินภายใน

2. ประกันคุ้มครองทรัพย์สินภายในบ้าน (Contents Insurance)

คุ้มครองของใช้ภายในบ้าน เช่น โทรทัศน์ โน้ตบุ๊ค เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของมีค่าฯลฯ เหมาะกับคน อยู่คอนโดหรือเช่าบ้าน และมีของมีค่าที่อยากปกป้อง

  • ข้อดี : คุ้มครองทรัพย์สินที่เสี่ยงต่อการสูญหายหรือเสียหายจากเหตุฉุกเฉิน
  • ข้อจำกัด : ไม่คุ้มครองตัวบ้านหรือโครงสร้าง

3. ประกันแบบผสม (ทั้งโครงสร้าง + ทรัพย์สิน)

ให้ความคุ้มครองทั้งตัวบ้านและทรัพย์สินภายใน รวมถึงเหตุภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ โจรกรรม เหมาะสำหรับคนที่ เป็นเจ้าของบ้านและอยู่คนเดียว เพราะดูแลครอบคลุมทุกด้าน

  • ข้อดี : คุ้มค่าที่สุด คุ้มครองได้รอบด้าน
  • ข้อจำกัด : เบี้ยอาจสูงกว่าเล็กน้อย แต่แลกกับความอุ่นใจ

4. ประกันภัยเบ็ดเตล็ด (เพิ่มเติมพิเศษ)

ประกันที่เสริมเข้าไป เช่น ประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ถ้าไฟไหม้ลามไปบ้านคนอื่น) ,ประกันภัยโจรกรรมแบบเจาะจงของมีค่า และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. เช่น เรียกช่างซ่อมไฟ/ประปา

  • ข้อดี : เพิ่มความอุ่นใจในสถานการณ์เฉพาะหน้า
  • ข้อจำกัด : ต้องซื้อแยกหรือแนบในแผนประกันหลัก

 

อยู่คนเดียว ประกันภัยบ้านที่ใช่ ต้องมีอะไรบ้าง?

1. คุ้มครองครอบคลุมเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม โจรกรรม

ประกันภัยบ้านที่ดีควรคุ้มครองครบถ้วน ทั้งไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำท่วมจากฝนตกหนักหรือท่อน้ำแตก ไปจนถึงเหตุโจรกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายเพราะไม่มีคนอยู่ร่วมบ้าน แนะนำให้เลือกประกันที่ครอบคลุมทั้งภัยธรรมชาติและความเสียหายต่อทรัพย์สิน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณจะไม่ต้องเผชิญกับความเสียหายเพียงลำพัง

2. มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. เช่น ช่างไฟ ช่างประปา

ทุกปัญหาเล็กน้อยอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะเหตุฉุกเฉินอย่างท่อประปาแตก ไฟดับ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียกลางดึก การมีบริการเรียกช่างตลอด 24 ชั่วโมงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคุณไม่ต้องเสียเวลาวิ่งหาเบอร์ช่างเอง หรือเสี่ยงโดนคิดค่าบริการเกินจริงจากช่างนอกระบบ แนะนำเลือกประกันบ้านที่มาพร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่พร้อมส่งช่างมืออาชีพถึงบ้านคุณทุกเวลา เพื่อให้ทุกเหตุการณ์ฉุกเฉินไม่กลายเป็นความเครียดที่คุณต้องรับมือ

3. เคลมง่าย ไม่ยุ่งยาก

การโทรประสานงานหลายรอบเมื่อบ้านเกิดปัญหา อาจกลายเป็นความยุ่งยากที่เพิ่มภาระโดยไม่จำเป็น ดังนั้น ประกันภันบ้านที่ดีควรมีขั้นตอนเคลมที่สะดวกและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน เช่น การแจ้งเคลมผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือโทรสายด่วน พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ช่วยประสานงานกับช่าง และติดตามผลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาจำเป็น จะไม่ต้องเสียทั้งเวลาและความรู้สึกกับขั้นตอนที่ไม่จำเป็น

4. เบี้ยประกันไม่สูงเกินไป

สำหรับคนที่อยู่คนเดียว การบริหารค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกประกันภัยบ้านควรพิจารณาเรื่องเบี้ยประกันเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะแผนที่มีราคาไม่สูงเกินไป แต่ยังคงให้ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม อย่างเบี้ยเริ่มต้นที่หลักร้อยไม่เกินหลักพันต่อปี ก็สามารถคุ้มครองภัยพื้นฐานอย่างไฟไหม้ น้ำท่วม หรือโจรกรรมได้แล้ว หรือควรเลือกแผนที่สามารถปรับระดับความคุ้มครองตามขนาดบ้าน คอนโด หรือมูลค่าทรัพย์สินภายใน เพื่อให้คุณได้รับความอุ่นใจ โดยไม่ต้องแบกรับภาระทางการเงินเกินตัว

 

อยู่คนเดียวก็อุ่นใจได้ เลือกประกันภัยบ้านทิพยยิ้มได้พลัส 

บ้านคือพื้นที่ปลอดภัยของเรา แต่เมื่อมีภัยไม่คาดคิดเกิดขึ้น ความเสียหายที่ตามมาอาจหนักหนากว่าที่คิด โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ลำพัง ต้องรับมือทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด และนี่คือเหตุผลที่ ประกันภัยบ้านทิพยยิ้มได้พลัส จากทิพยประกันภัย เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคนอยู่คนเดียว ที่เบี้ยเริ่มต้นแค่หลักร้อย แต่ให้ความคุ้มครองครบทั้งโครงสร้าง ทรัพย์สิน และภัยธรรมชาติ พร้อมชดเชยกรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟดับ หรือที่พักอาศัยชั่วคราว

หากคุณกำลังมองหาประกันภัยบ้านดีๆ ที่ทั้งคุ้มค่าและเข้าใจชีวิตอยู่คนเดียว ให้ ประกันภัยบ้านทิพยยิ้มได้พลัส จากทิพยประกันภัย ช่วยดูแล สอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736 

#Tag: