รถกระจกแตกเคลมประกันได้ไหม มีเงื่อนไขอะไรที่ต้องรู้บ้าง
อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด โดยเฉพาะเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างกระจกรถยนต์แตกร้าว ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเศษหินกระเด็นใส่ หรืออุบัติเหตุเฉี่ยวชน หลายคนอาจเป็นกังวลว่าในกรณีเช่นนี้ ประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้จะให้ความคุ้มครองหรือไม่ และขั้นตอนการเคลมกระจกรถยนต์จะยุ่งยากหรือเปล่า วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมข้อมูลและเงื่อนไขสำคัญที่ควรรู้มาฝากกัน เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น
กระจกรถแตกเคลมประกันได้ไหม
กระจกรถยนต์แตกสามารถเคลมประกันได้ หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์อยู่แล้ว ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม แต่สำหรับประกันชั้นอื่นๆ อาจต้องพิจารณาตามรายละเอียดความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์ ซึ่งประกันชั้น 2+ และ 3+ จะคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุมีคู่กรณีหรือรถชนรถ ในขณะที่ชั้น 3 จะไม่ครอบคลุมความเสียหายในส่วนนี้
กระจกรถแตกจากสาเหตุอะไรได้บ้างที่เคลมประกัน
เมื่อพูดถึงสาเหตุที่ทำให้กระจกรถยนต์เสียหายจนสามารถเคลมกระจกรถยนต์ได้นั้น มีหลากหลายกรณีที่เข้าข่ายความคุ้มครองของประกันภัยชั้น 1 ครอบคลุมเหตุการณ์หลักๆ ดังนี้
อุบัติเหตุรถชน (มีหรือไม่มีคู่กรณี)
ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น หรือการขับรถไปชนวัตถุต่างๆ เช่น กำแพง ต้นไม้ เสาไฟฟ้า จนเป็นเหตุให้กระจกรถยนต์แตกร้าวเสียหาย กรณีเช่นนี้สามารถแจ้งเคลมกระจกรถยนต์กับบริษัทประกันภัยได้ทันที โดยจะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หินหรือวัตถุกระเด็นใส่กระจก
เป็นอีกหนึ่งสาเหตุยอดฮิตที่พบบ่อยครั้งขณะขับขี่บนท้องถนน โดยเฉพาะเมื่อขับตามหลังรถบรรทุกหรือขับผ่านเส้นทางที่กำลังก่อสร้าง อาจมีเศษหิน ดิน หรือวัตถุอื่นๆ กระเด็นมาโดนกระจกจนเกิดเป็นรอยร้าวหรือรอยแตก ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีและสามารถแจ้งเคลมประกันชั้น 1 ได้เช่นกัน
การถูกโจรกรรมหรือทุบทำลาย
ในกรณีที่รถยนต์ของคุณถูกทุบกระจกเพื่อโจรกรรมทรัพย์สิน หรือถูกผู้ไม่หวังดีกลั่นแกล้งทุบทำลายจนกระจกเสียหาย ประกันภัยชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน โดยคุณจำเป็นต้องมีหลักฐานการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประกอบการเคลมกระจกรถยนต์
เงื่อนไขสำคัญที่ต้องรู้! ก่อนเคลมกระจกรถยนต์
เพื่อให้การเคลมกระจกรถยนต์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว มีเงื่อนไขบางประการที่ควรทำความเข้าใจและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนดำเนินการแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัย
ประเภทของประกันภัย
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของคุณเป็นประกันชั้น 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อกระจกรถยนต์ในทุกกรณี
ลักษณะของความเสียหาย
แจ้งรายละเอียดลักษณะและความรุนแรงของรอยแตกหรือร้าวบนกระจกให้ชัดเจน เพื่อให้บริษัทประกันประเมินแนวทางการซ่อมแซมได้อย่างเหมาะสม
เอกสารประกอบการเคลม
เตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน ได้แก่ สำเนาใบขับขี่, สำเนากรมธรรม์ประกันภัย, สำเนาทะเบียนรถ, ใบรับรองความเสียหาย และใบแจ้งความ (ในกรณีถูกโจรกรรมหรือทุบทำลาย)
ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)
ในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีและไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ บางกรมธรรม์อาจมีเงื่อนไขให้ผู้เอาประกันต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ระบุไว้
การเลือกอู่ซ่อม
สามารถเลือกได้ว่าจะนำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทประกันหรือศูนย์บริการมาตรฐาน ซึ่งอาจมีผลต่อค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการซ่อมที่แตกต่างกันไป
ซ่อมกระจก กับ เปลี่ยนกระจก แบบไหนดีกว่าเมื่อต้องเคลมประกัน?
เมื่อต้องเคลมกระจกรถยนต์หลายคนอาจลังเลว่าจะเลือกซ่อมหรือเปลี่ยนกระจกบานใหม่ดี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หากรอยแตกมีขนาดเล็กและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ การซ่อมแซมเฉพาะจุดอาจเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและประหยัดกว่า แต่หากรอยแตกร้าวมีขนาดใหญ่ ลุกลามเป็นแนวยาว หรืออยู่ในตำแหน่งสำคัญ การเปลี่ยนกระจกบานใหม่จะปลอดภัยและเหมาะสมกว่าในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจในความแข็งแรงและทัศนวิสัยที่ชัดเจนขณะขับขี่
สรุปบทความ
เหตุการณ์กระจกรถแตกเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดแต่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ การทำความเข้าใจเงื่อนไขและขั้นตอนการเคลมกระจกรถยนต์จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจและลดความกังวลใจลงได้มาก การมีประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมจาก TIPINSURE ติดรถไว้ ก็เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยที่พร้อมดูแลคุณในทุกสถานการณ์ เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาและอำนวยความสะดวกให้คุณได้เมื่อภัยมา ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเพียงใด ก็พร้อมเคียงข้างดูแลให้คุณอุ่นใจในทุกเส้นทาง