เป็นฝ่ายถูกต้องรู้ 5 กรณีที่เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้
17 พฤศจิกายน 2025
ผู้ชม: 10 คน

รถชนอย่าเสียสิทธิ์ รวมกรณีเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ 

รวมกรณีเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้

เกิดอุบัติเหตุรถชน นอกจากค่าซ่อมรถแล้ว รู้หรือไม่ว่าช่วงเวลาที่ไม่มีรถใช้ เรายังสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเงินชดเชยความไม่สะดวกสบายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างที่รถของเราจอดซ่อมอยู่ที่อู่ โดยเงื่อนไขสำคัญที่สุดคือเราต้องเป็น ฝ่ายถูก เท่านั้น หากคุณเป็นฝ่ายถูกในอุบัติเหตุ ก็มีสิทธิ์เรียกร้องเงินก้อนนี้ได้เต็มที่ วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญมาให้ครบถ้วนแล้ว ไปดูกันเลย

 

5 กรณี เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้แน่นอน

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ มาดู 5 สถานการณ์ตัวอย่างที่เกิดขึ้นบ่อย และคุณในฐานะ ฝ่ายถูก สามารถใช้สิทธิ์เรียกร้องได้อย่างแน่นอน

กรณีที่ 1: รถติดไฟแดงอยู่เฉย ๆ แล้วถูกชนท้าย

เป็นกรณีคลาสสิกที่พิสูจน์ความถูกผิดได้ง่ายที่สุด สมมติว่าคุณกำลังจอดรถติดไฟแดงอยู่อย่างถูกต้องตามกฎจราจร แต่แล้วก็มีรถยนต์คันหลังขับมาชนท้ายอย่างจัง ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณคือฝ่ายถูก 100% และเมื่อนำรถเข้าซ่อม ก็สามารถดำเนินการเพื่อขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากบริษัทประกันของคู่กรณีได้ทันที

กรณีที่ 2: ขับรถในเลนของตัวเอง แต่มีรถเปลี่ยนเลนกะทันหันมาชน

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังขับรถอยู่ในเลนกลางอย่างปกติด้วยความเร็วคงที่ จู่ ๆ รถที่อยู่เลนซ้ายก็ตัดสินใจเปลี่ยนเลนเข้ามาในช่องทางของคุณอย่างกะทันหันโดยไม่ให้สัญญาณไฟ ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนอย่างรุนแรง กรณีนี้ชัดเจนว่าความประมาทเกิดจากรถคันที่เปลี่ยนเลน คุณจึงเป็นฝ่ายถูกและมีสิทธิ์เต็มที่ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

กรณีที่ 3: ขับผ่านสี่แยกโดยได้รับสัญญาณไฟเขียว แต่ถูกรถฝ่าไฟแดงมาชน

สี่แยกวัดใจที่หลายคนเคยเจอ คุณขับรถผ่านสี่แยกเมื่อเห็นสัญญาณไฟเขียว แต่กลับมีรถอีกคันหนึ่งที่ไม่เคารพกฎจราจร ฝ่าสัญญาณไฟแดงมาชนรถของคุณเข้าที่ด้านข้างอย่างจัง เหตุการณ์นี้พิสูจน์ได้ไม่ยากจากพยานในที่เกิดเหตุหรือกล้องหน้ารถ ทำให้คุณเป็นฝ่ายถูกและสามารถใช้สิทธิ์เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในช่วงที่ไม่มีรถใช้งานได้

กรณีที่ 4: รถที่ขับตามมาชนท้าย เพราะคันหน้าเบรกกะทันหันเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง

สถานการณ์นี้อาจซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย แต่กฎหมายจราจรมักให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างที่ปลอดภัย หากรถคันหน้าคุณเบรกกะทันหันเพื่อหลบสุนัขตัดหน้า แล้วคุณเบรกทัน แต่รถคันข้างหลังคุณเบรกไม่ทันและพุ่งเข้ามาชนท้าย แบบนี้ถือว่ารถคันหลังสุดเป็นฝ่ายผิดที่ไม่เว้นระยะให้ดีพอ คุณจึงเป็นฝ่ายถูกและมีสิทธิ์เคลมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้เช่นกัน

กรณีที่ 5: มอเตอร์ไซค์ล้มเองแล้วไถลมาโดนรถยนต์ที่วิ่งอยู่

อุบัติเหตุไม่จำเป็นต้องเกิดจากรถชนรถเสมอไป หากมีมอเตอร์ไซค์ขับมาแล้วเกิดเสียหลักล้มลงเองบนถนน ก่อนที่ตัวรถจะไถลมาโดนรถยนต์ของคุณที่ขับอยู่ในเลนตามปกติจนเกิดความเสียหาย กรณีเช่นนี้ถือว่าความเสียหายเกิดจากความประมาทของผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ คุณจึงเป็นฝ่ายถูกและสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ตามสิทธิ์

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับยื่นเรื่อง

เช็กลิสต์! เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับยื่นเรื่อง มีอะไรบ้าง?

เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นฝ่ายถูกและต้องการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ การเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วนคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้กระบวนการรวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้

  • ใบรับรองความเสียหาย หรือ ใบเคลม (ที่ระบุชัดเจนว่าเราเป็นฝ่ายถูก)
  • สำเนาทะเบียนรถ
  • สำเนาใบขับขี่
  • ใบรับรถ หรือเอกสารนัดหมายการซ่อมจากศูนย์บริการ/อู่
  • สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
  • หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ (สามารถขอแบบฟอร์มได้จากบริษัทประกันของคู่กรณี)
  • เอกสารประกอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างซ่อมรถ (ถ้ามี) เช่น ใบเสร็จค่าบริการรถสาธารณะ

 

ขั้นตอนการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์

หลังจากรวบรวมเอกสารครบแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการยื่นเรื่อง ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงทำตาม 3 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้ คุณก็สามารถใช้สิทธิ์ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถของคุณได้แล้ว

  • ขั้นตอนที่ 1: ติดต่อบริษัทประกันของ ฝ่ายคู่กรณี

โทรติดต่อ Call Center ของบริษัทประกันภัยที่คุ้มครองรถของคู่กรณี แจ้งความประสงค์ว่าต้องการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถพร้อมแจ้งเลขที่รับแจ้งเหตุ หรือเลขเคลมที่ได้มาตอนเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะแนะนำขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ต่อไป

  • ขั้นตอนที่ 2: ยื่นเอกสารทั้งหมดให้ครบถ้วน

นำส่งเอกสารที่เตรียมไว้ทั้งหมดให้กับบริษัทประกันของคู่กรณี โดยสามารถยื่นได้ที่สาขาของบริษัทประกัน หรือส่งผ่านช่องทางออนไลน์/อีเมลตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ การยื่นเอกสารที่ครบถ้วนในครั้งเดียวจะช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการได้มาก

  • ขั้นตอนที่ 3: รอการพิจารณาและติดตามผล

หลังจากยื่นเอกสารแล้ว บริษัทประกันจะใช้เวลาในการพิจารณา โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 7-15 วันทำการ หากเรื่องมีความซับซ้อนอาจใช้เวลานานกว่านั้น คุณสามารถโทรติดตามความคืบหน้าเป็นระยะ ๆ จนกว่าจะได้รับการอนุมัติและโอนเงินชดเชย

 

จะได้รับเงินชดเชยเท่าไหร่? เปิดอัตราขั้นต่ำตามเกณฑ์ คปภ.

หลายคนอาจสงสัยว่าจะได้รับเงินชดเชยจากค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเท่าไหร่ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดอัตราค่าชดเชยขั้นต่ำไว้เป็นมาตรฐานกลาง ดังนี้

  • รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ได้รับชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
  • รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง ได้รับชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
  • รถยนต์ขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท
  • รถจักรยานยนต์ให้เป็นไปตามที่เรียกร้องและตกลงกัน โดยพิจารณาและประเมินตามหลักฐาน 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ไม่มีใบเสร็จค่าเดินทาง แต่เดินทางจริง เบิกได้ไหม?

ถึงแม้ไม่มีใบเสร็จ แต่หากคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดค่าใช้จ่ายในการเดินทางจริง เช่น การใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันที่มีประวัติการเดินทางชัดเจน หรือมีเอกสารยืนยันความจำเป็นในการเดินทางไปทำงาน ก็ยังสามารถยื่นเรื่องเพื่อขอพิจารณาค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้

หากบริษัทประกันของคู่กรณีปฏิเสธการจ่ายเงิน ควรทำอย่างไร?

หากบริษัทประกันของคู่กรณีปฏิเสธการจ่ายค่าชดเชย หรือเสนอจำนวนเงินที่ไม่สมเหตุสมผล คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่สำนักงาน คปภ. ผ่านสายด่วน 1186 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยและตรวจสอบตามกระบวนการ

เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถย้อนหลังได้ไหม

สามารถทำได้ โดยอายุความในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งจัดเป็นค่าเสียหายจากกรณีละเมิด จะมีอายุความ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ดังนั้นควรรีบดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง

กรณีประมาทร่วม สามารถขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไหม

ไม่สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ เพราะกรณีนี้จะสงวนสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ที่เป็น ฝ่ายถูก เท่านั้น หากผลการพิจารณาออกมาเป็นประมาทร่วม จะไม่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยในส่วนนี้ได้

สรุปกรณีที่สามารถค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้

 

สรุปบทความ

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การรู้สิทธิ์ของตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุด ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคือสิทธิ์อันชอบธรรมที่คุณในฐานะ ฝ่ายถูก ไม่ควรมองข้าม เพราะมันสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างที่รถของคุณต้องเข้าซ่อมได้ และเพื่อความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมจาก TIPINSURE ก็พร้อมเป็นผู้ช่วยดูแลคุณในทุกสถานการณ์ เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันแค่ไหน ก็มั่นใจได้ว่ามีเราพร้อมเคียงข้าง

#Tag: