ป้องกันเชื้อรา ลดความชื้นในบ้านช่วงหน้าฝน
12 มิถุนายน 2025
ผู้ชม: 30 คน

ป้องกันเชื้อรา ลดความชื้นในบ้านช่วงหน้าฝน

ฝนตกหนักแทบทุกวัน ความชุ่มชื้นในอากาศเพิ่มขึ้นทำให้บ้านเปลี่ยนจากที่พักผ่อนแสนสบาย กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราโดยไม่รู้ตัว กลิ่นอับชื้นตามผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งผนังห้องน้ำ ที่กลายเป็นจุดเสี่ยงเกิดเชื้อราเจริญเติบโตได้ดี ยิ่งถ้ามีการรั่วซึมของน้ำฝน หรือการทำความสะอาดไม่ทั่วถึง ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสเชื้อราสะสมมากขึ้น แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งอาการภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง ไปจนถึงโรคทางเดินหายใจ 

การป้องกันเชื้อราและลดความชื้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นการระบายอากาศ การใช้เครื่องลดความชื้น การเช็ดทำความสะอาดจุดอับชื้นอยู่เสมอ รวมถึงการซ่อมแซมรอยรั่วและอุดรอยแตกร้าวที่อาจเปิดทางให้น้ำฝนซึมเข้าได้ 

ลองมาดูวิธีการง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและดูแลบ้านให้สะอาด น่าอยู่ตลอดหน้าฝนนี้!

 

บ้านชื้น เกิดจากอะไร?

ความชื้นในบ้านเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ เชื้อรา และส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ และเหตุผลที่ทำให้บ้านมีความชื้นสูงเกิดได้จากหลายสาเหตุ

1. ฝนตกและการรั่วซึมของหลังคา/ผนัง

น้ำฝนที่รั่วซึมผ่านหลังคา รอยแตกร้าวของผนัง หรือรอยต่อของหน้าต่าง จะทำให้โครงสร้างบ้านอุ้มน้ำ เกิดความชื้นสะสมและเป็นแหล่งเพาะเชื้อราได้ง่าย

2. การระบายอากาศไม่ดี

บ้านที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น ไม่มีหน้าต่าง หรือปิดทึบทั้งวัน จะทำให้อากาศอับชื้น ความชื้นจากกิจกรรมในบ้าน เช่น หุงต้ม อาบน้ำ หรือซักผ้า จึงระบายออกไม่ได้

3. พื้นที่ใกล้น้ำหรืออยู่ต่ำ

บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ หรืออยู่ในที่ดินต่ำกว่าระดับถนน มักมีความชื้นสะสมจากดินใต้บ้านหรือมีน้ำท่วมขังได้ง่าย

4. ความชื้นจากใต้พื้นหรือห้องใต้ดิน

ความชื้นจากใต้ดินสามารถซึมขึ้นมาสู่พื้นบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่ไม่มีการวางระบบกันชื้นใต้พื้น หรือปูวัสดุกันความชื้นไม่ดี

5. การใช้วัสดุก่อสร้างที่ดูดซับน้ำ

วัสดุบางประเภท เช่น ไม้อัด กระเบื้องที่ไม่เคลือบกันชื้น หรือผนังฉาบบาง อาจดูดซับความชื้นจากอากาศหรือฝน ทำให้เกิดความอับชื้นสะสม

6. การอบแห้งเสื้อผ้าภายในบ้าน

การตากผ้าในบ้านจะเพิ่มความชื้นในอากาศทันที หากไม่มีพัดลมหรือการระบายอากาศที่ดี จะส่งผลให้อากาศในบ้านอับชื้นเรื้อรัง

 

บ้านมีความชื้นมากเกินไป จะรู้ได้อย่างไร?

แม้ความชื้นจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่บ้านที่มีความชื้นมากเกินไปมักส่งสัญญาณเตือนชัดเจน หากสังเกตดีๆ คุณอาจพบอาการเหล่านี้

  • กลิ่นอับในบ้าน โดยเฉพาะในห้องน้ำ ห้องครัว ตู้เสื้อผ้า หรือมุมอับที่ไม่มีแสงแดด
  • คราบเชื้อราบนผนัง เพดาน หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยจะมีลักษณะเป็นจุดดำ เขียว หรือขาว เกาะตัวเป็นวงๆ
  • สีทาบ้านลอกล่อน หรือผนังโป่งพอง บางครั้งผิวผนังอาจลอกออกมาเป็นแผ่น เพราะมีน้ำซึมอยู่ภายใน
  • หน้าต่างมีหยดน้ำหรือน้ำเกาะเป็นฝ้า โดยเฉพาะช่วงเช้า หรือในวันที่อากาศเย็น
  • คนในบ้านเริ่มมีอาการภูมิแพ้หรือไอเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดจากการสูดเชื้อราและฝุ่นละอองที่ลอยในอากาศ

หากพบสัญญาณเหล่านี้ หมายความว่าความชื้นในบ้านของคุณเริ่มเกินระดับปกติแล้ว ควรหาสาเหตุและแก้ไขทันที เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อราและผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

 

วิธีลดความชื้นในบ้านช่วงหน้าฝน

ใส่ใจเรื่องการระบายอากาศในห้องต่างๆ

การระบายอากาศเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับในบ้านได้ดี ลองสำรวจแต่ละห้องว่ามีอากาศถ่ายเทเพียงพอหรือไม่ เริ่มจากการเปิดประตู หน้าต่างให้ลมพัดผ่าน ช่วยไล่ความชื้นสะสมและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่บดบังหน้าต่างหรือขวางทางลม เพื่อให้ลมไหลเวียนได้สะดวก

สำหรับห้องที่ไม่มีหน้าต่าง หรืออยู่ในมุมอับของบ้าน ควรใช้พัดลมช่วยไล่อากาศ หรือติดตั้งพัดลมดูดอากาศแบบถาวร โดยเฉพาะในห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดความชื้นสูงจากการใช้งานประจำวัน การมีที่ระบบระบายอากาศจะช่วยให้บ้านแห้ง สะอาด และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier)

เครื่องลดความชื้นคืออีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการจัดการกับปัญหาบ้านอับชื้น โดยเฉพาะบ้านที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ไม่มีแดดส่อง หรือมีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก เครื่องจะช่วยดูดไอน้ำในอากาศ ลดความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา กลิ่นอับ และไรฝุ่นได้อย่างดี

นอกจากนี้ยังช่วยถนอมเฟอร์นิเจอร์ไม้ไม่ให้บวม ผุ เป็นคราบรา และดีต่อสุขภาพของผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดอีกด้วย แค่เลือกขนาดเครื่องให้เหมาะกับพื้นที่ และหมั่นเทน้ำในถังเก็บ ก็สามารถควบคุมความชื้นในบ้านได้อย่างง่ายดาย ทั้งสะดวกและคุ้มค่าในระยะยาว

ซ่อมแซมรอยรั่วซึมทันที

รอยรั่วซึมเล็กๆ ที่มองข้าม อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงหน้าฝน เพราะน้ำสามารถซึมเข้าโครงสร้างบ้านได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความชื้นสะสม เชื้อรา ผนังลอก หรือแม้แต่โครงสร้างเสื่อมสภาพในระยะยาว ดังนั้นคุณควรหมั่นตรวจสอบจุดเสี่ยง เช่น หลังคา รางน้ำ รอยต่อหน้าต่าง ประตู และผนังภายนอก หากพบรอยแตกร้าว หรือจุดที่น้ำไหลซึม ควรรีบซ่อมทันที การจัดการอย่างรวดเร็วจะช่วยป้องกันความเสียหายที่ลุกลาม และลดความชื้นสะสมในบ้านได้

หลีกเลี่ยงการตากผ้าในบ้าน

การตากผ้าในบ้าน โดยเฉพาะในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทหรือปิดทึบ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความชื้นสะสมในอากาศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอน้ำจากผ้าเปียกจะระเหยออกมาโดยไม่มีทางระบาย เกิดกลิ่นอับ เชื้อรา และส่งผลต่อสุขภาพ หากเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้พัดลมหรือเครื่องลดความชื้นช่วยเร่งการแห้งของผ้า และเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมดูดอากาศควบคู่ไปด้วย

เลือกใช้วัสดุกันชื้นในบ้าน

การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติกันชื้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดปัญหาความชื้นสะสมในบ้านได้อย่างยั่งยืน เช่น การเลือกสีทาผนังที่มีคุณสมบัติกันเชื้อราและความชื้น จะช่วยยืดอายุผนังและลดคราบราดำในห้องน้ำหรือห้องครัว รวมถึงการใช้กระเบื้องที่ไม่ดูดซึมน้ำในพื้นที่เปียก เช่น ห้องน้ำ พื้นที่ซักล้าง ก็ช่วยป้องกันการซึมน้ำลงพื้นได้ดี

หากใช้พรม ควรเลือกพรมที่ทำความสะอาดง่ายและไม่กักเก็บความชื้น ส่วนบ้านที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือมีความชื้นสูง ควรติดตั้งฉนวนกันความชื้นใต้พื้นบ้านเพื่อป้องกันความชื้นจากดินซึมขึ้นมา การใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนเลือกวัสดุ จะช่วยลดปัญหาอับชื้นในระยะยาว และทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ดูแลเฟอร์นิเจอร์และผนังอย่างสม่ำเสมอ

ความชื้นที่สะสมในบ้านสามารถซึมเข้าสู่เฟอร์นิเจอร์และผนังได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นไม้ ผ้า หรืออยู่ในมุมอับ ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผ้าม่าน พรม และผนัง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อราหรือแอลกอฮอล์ จะช่วยลดการสะสมของเชื้อราและกลิ่นอับได้ดี และคอยสังเกตดูคราบความชื้นหรือจุดที่มีคราบดำหรือเขียว อาจเป็นสัญญาณของเชื้อราที่กำลังก่อตัวขึ้น หากพบควรรีบทำความสะอาดหรือแก้ไขทันที

 

การป้องกันความชื้นและเชื้อราในช่วงหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยากเลย หากคุณดูแลใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ตั้งแต่การระบายอากาศ การเลือกใช้วัสดุ การทำความสะอาด ไปจนถึงการตรวจเช็กซ่อมแซมรอยรั่วซึมอย่างสม่ำเสมอ การใส่ใจเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้บ้านของคุณสะอาด น่าอยู่ แต่ยังช่วยปกป้องสุขภาพของทุกคนในครอบครัวจากเชื้อราและโรคที่มากับความชื้นได้อย่างดี

และเพื่อความอุ่นใจมากยิ่งขึ้นในทุกฤดู  TIPINSURE แนะนำประกันบ้านทิพยยิ้มได้พลัส จากทิพยประกันภัย ที่คุ้มครองทั้งตัวบ้านและทรัพย์สินภายใน จากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเหตุการณ์ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกโจรกรรม เป็นประกันที่อยู่อาศัยอย่างครอบคลุมทุกความกังวลอย่างแท้จริง สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM  หรือโทร. 1736 ให้ทิพยประกันภัยช่วยดูแลบ้านของคุณทุกฤดูกาล 

#Tag: