รวมเบอร์โทรฉุกเฉินที่ต้องมี แชร์เก็บไว้โทรยามจำเป็น

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน ปัญหาสุขภาพกะทันหัน หรือภัยพิบัติใกล้ตัว การรู้ว่าจะต้องติดต่อใครในสถานการณ์ฉุกเฉินจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะกำลังเดินทางท่องเที่ยว เกิดเหตุไม่สบายในบ้าน หรือต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมเบอร์โทรฉุกเฉินที่สำคัญๆ มาให้ครบ ทั้งสำหรับเหตุการณ์ทั่วไปและเหตุการณ์เฉพาะด้าน เซฟเก็บไว้ อุ่นใจกว่าแน่นอน

รวมเบอร์โทรฉุกเฉินพื้นฐานและหน่วยงานหลัก

ก่อนจะไปดูเบอร์โทรฉุกเฉินเฉพาะด้าน มาเริ่มกันที่เบอร์พื้นฐานและหน่วยงานหลักที่ควรรู้จักและเมมไว้ในโทรศัพท์ เพราะเป็นเบอร์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นหรือประสานงานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว

เบอร์โทรฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอาชญากรรม เหตุการณ์ความไม่สงบ หรือต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ การมีเบอร์โทรฉุกเฉินเหล่านี้ติดตัวไว้จะช่วยให้คุณได้รับการตอบสนองที่ทันท่วงที อย่าลังเลที่จะติดต่อหากรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือพบเห็นสิ่งผิดปกติ

• 191 แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดต่อได้ทั่วประเทศ
• 192 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
• 1190 ตำรวจตระเวนชายแดน
• 1191 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
• 1192 ศูนย์ปราบขโมยรถ (สตช.)
• 1193 ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทาง แจ้งอุบัติเหตุบนทางหลวง
• 1195 กองปราบ (สายด่วนแจ้งเหตุอาชญากรรม คดีร้ายแรงเป็นภัยต่อประเทศ)
• 1196 กองบังคับการตำรวจน้ำ
• 1197 สายด่วนจราจร (ตำรวจจราจร)
• 1155 ตำรวจท่องเที่ยว ให้ความช่วยเหลือและบริการนักท่องเที่ยว (มีล่ามหลายภาษา)
• 199 ศูนย์วิทยุพระราม แจ้งเหตุไฟไหม้ สัตว์เลื้อยคลานเข้าบ้าน หรือสาธารณภัยต่างๆ
• 1300 ศูนย์ประชาบดี แจ้งปัญหาคนหาย การค้ามนุษย์ ความรุนแรงในครอบครัว
• 1178 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

เบอร์โทรฉุกเฉินด้านการแพทย์และสุขภาพ

เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณหรือคนใกล้ชิดต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน การรู้เบอร์โทรฉุกเฉินด้านการแพทย์เหล่านี้จะช่วยให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจหมายถึงการรักษาชีวิตได้เลยทีเดียว

• 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน บริการฟรีทั่วประเทศ
• 1646 ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร บริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม.
• 1323 สายด่วนสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิต
• 1556 สายด่วน อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) สอบถามเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยา อาหาร และเครื่องสำอาง
• 1418 มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง กรุงเทพมหานคร
• 1691 โรงพยาบาลตำรวจ

เบอร์โทรฉุกเฉินที่เกี่ยวกับการเดินทางและท่องเที่ยว

ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดเป็นสิ่งจำเป็น การมีเบอร์โทรฉุกเฉินสำหรับการเดินทางจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้นตลอดทริป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือต้องการข้อมูลการเดินทาง

• 1137 วิทยุ จส.100 (เบอร์โทรฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วนบนท้องเพื่อประสานงานต่อ)
• 1193 ตำรวจทางหลวง
• 1146 กรมทางหลวงชนบท (ติดต่อเรื่องท้องถนนเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด) 
• 1197 ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรตำรวจ
• 1543 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT Call Center) สอบถามข้อมูลการจราจรบนทางด่วน แจ้งเหตุฉุกเฉิน
• 1584 กรมการขนส่งทางบก สำหรับเรื่องร้องเรียนหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรถโดยสาร
• 1586 สายด่วนกรมทางหลวง สอบถามข้อมูลเส้นทาง แจ้งเหตุบนทางหลวง
• 1644 สวพ. FM91 (รายงานสภาพจราจรและแจ้งเหตุด่วนบนท้องถนน)
• 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย สอบถามข้อมูล ตารางรถไฟ จองตั๋ว

เบอร์โทรฉุกเฉินด้านสาธารณูปโภค

ปัญหาเรื่องไฟฟ้า ประปา หรือสายโทรศัพท์ขัดข้องก็เป็นเรื่องฉุกเฉินในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน การทราบเบอร์โทรฉุกเฉินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ลดผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

• 1130 การไฟฟ้านครหลวง (MEA) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ
• 1129 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ต่างจังหวัด
• 1125 การประปานครหลวง (MWA) สำหรับผู้ใช้น้ำประปาในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ
• 1662 การประปาส่วนภูมิภาค (PWA) สำหรับผู้ใช้น้ำประปาในพื้นที่ต่างจังหวัด

ทำไมเบอร์โทรฉุกเฉินจึงสำคัญ?

เบอร์โทรฉุกเฉินเป็นเครื่องมือสำคัญที่เชื่อมโยงเราเข้ากับความช่วยเหลือในยามคับขัน การจดจำหรือบันทึกเบอร์เหล่านี้ไว้ จะช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าในการค้นหาเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง ทำให้สามารถแจ้งเหตุและรับความช่วยเหลือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในบางสถานการณ์ ความรวดเร็วนี้อาจหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หรือการลดความรุนแรงของปัญหาลงได้มาก

ข้อควรรู้และวิธีเตรียมตัวเมื่อต้องโทรเบอร์ฉุกเฉิน

เมื่อต้องโทรแจ้งเหตุผ่านเบอร์โทรฉุกเฉินการเตรียมข้อมูลและปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องจะช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้

• ตั้งสติและพูดช้าๆ ชัดๆ แม้จะตื่นตระหนก พยายามควบคุมสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วแจ้งข้อมูลด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปลายสายเข้าใจรายละเอียดได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
• แจ้งประเภทเหตุการณ์ บอกให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น อุบัติเหตุรถชน ไฟไหม้ คนป่วยฉุกเฉิน หรือต้องการความช่วยเหลือด้านใด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์เบื้องต้นและประสานงานได้ถูกหน่วยงาน
• บอกพิกัดให้ชัดเจนที่สุด ระบุสถานที่เกิดเหตุให้ละเอียด เช่น บ้านเลขที่ ชื่ออาคาร ชั้น ซอย ถนน แขวง/ตำบล เขต/อำเภอ จังหวัด หรือจุดสังเกตสำคัญใกล้เคียง หากอยู่บนถนนให้แจ้งชื่อถนน หมายเลขถนน หรือหลักกิโลเมตร
• ให้ข้อมูลผู้ประสบเหตุ แจ้งจำนวนผู้บาดเจ็บ (ถ้ามี) อาการเบื้องต้น เพศ อายุ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญ เพื่อให้ทีมช่วยเหลือเตรียมอุปกรณ์และบุคลากรได้เหมาะสมกับสถานการณ์
• ให้ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ แจ้งชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ของคุณให้ชัดเจน เผื่อเจ้าหน้าที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแจ้งความคืบหน้าในการช่วยเหลือ
• อย่าเพิ่งวางสายจนกว่าเจ้าหน้าที่จะอนุญาต รอให้เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายวางสายก่อนเสมอ เพราะอาจมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวระหว่างรอความช่วยเหลือ

สรุปบทความ

การเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การมีรายการเบอร์โทรฉุกเฉินติดตัวหรือติดบ้านไว้จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม หากต้องการความอุ่นใจที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น การมี ประกันภัยที่เหมาะสมก็จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาเมื่อภัยมา ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ที่ดูแลทั้งรถและคุณ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่คุ้มครองคุณตลอด 24 ชั่วโมง ประกันภัยบ้านที่ช่วยดูแลที่อยู่อาศัย หรือประกันการเดินทางในประเทศที่ให้คุณเที่ยวสนุกไร้กังวล TIPINSURE เราพร้อมดูแลคุณในทุกสถานการณ์ ให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงแค่ไหน ก็มีคนคอยช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน สอบถามเกี่ยวกับประกันภัยหรือแจ้งเคลมฉุกเฉิน โทรสายด่วน TIPINSURE 1736 ได้ทันที