คนเดินถนน เสี่ยงทุกก้าว! อุบัติเหตุจราจรความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน
15 สิงหาคม 2025
ผู้ชม: 117 คน

คนเดินถนน เสี่ยงทุกก้าว! อุบัติเหตุจราจรความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน

แม้คุณจะไม่ได้ขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซค์ แต่คนเดินถนนก็ใช่ว่าจะปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจร ไม่ว่าจะบนทางม้าลาย ริมถนน หรือแม้แต่การยืนรอสัญญาณไฟ คนเดินถนนยังคงเผชิญความเสี่ยงที่เกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถ หรือสภาพแวดล้อมบนท้องถนนที่ไม่เอื้ออำนวย

ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากโชคร้ายเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนถึงช่องโหว่ของระบบจราจร พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และความไม่ปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐาน กลายเป็นกับดักบนทางเท้าที่คุกคามชีวิตคนเดินเท้าอยู่ทุกวัน

 

คนเดินถนนในไทยเสี่ยงแค่ไหน?

คนเดินถนนในไทยต้องเผชิญความเสี่ยงไม่น้อยกว่าผู้ใช้ยานพาหนะ เพราะในแต่ละวันมีคนถูกรถชนเสียชีวิตเฉลี่ยถึงวันละ 1 คน ข้อมูลจากช่วงปี 2561–2565 ระบุว่าคนเดินเท้าคือหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงหลักของอุบัติเหตุทางถนน รองจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการขับรถไม่หยุดให้ทางบนทางม้าลาย การออกแบบถนนที่ไม่ปลอดภัย หรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่ออุบัติเหตุ

ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำว่าการเป็นคนเดินถนนในไทยคือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน และไม่ใช่เรื่องไกลตัวที่ควรมองข้าม

 

สาเหตุหลักของอุบัติเหตุคนเดินถนน

1. ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการชนคนเดินถนน โดยเฉพาะบนทางหลวง ข้อมูลจากกรมทางหลวงระบุว่า การขับเร็วเกินอัตราที่กำหนด เป็นต้นตอของอุบัติเหตุกว่าเกินครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในกลุ่มชนคนเดินเท้า 

นอกจากนี้ การขับเร็วในเขตชุมชน โรงเรียน หรือบริเวณทางม้าลาย ยิ่งเป็นพฤติกรรมที่อันตราย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีคนเดินเท้าจำนวนมาก และผู้ใช้ถนนกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีความสามารถในการหลบหลีกหรือประเมินสถานการณ์ได้ช้ากว่าคนทั่วไป

การควบคุมความเร็วจึงไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของความรับผิดชอบร่วมกันบนท้องถนน การขับช้าลงเพียงเล็กน้อย อาจช่วยรักษาชีวิตใครบางคนได้

2. ละเมิดกฎจราจรโดยทั่วไป

หนึ่งในพฤติกรรมที่สร้างความเสี่ยงสูงให้กับคนเดินถนน คือการที่ผู้ขับขี่ ละเมิดกฎจราจรพื้นฐาน เช่น การฝ่าสัญญาณไฟจราจร, ไม่หยุดให้คนข้ามที่ทางม้าลาย หรือเลี้ยวรถโดยไม่ลดความเร็ว สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของบางคน แต่ผลลัพธ์กลับรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

จากข้อมูลของ สำนักงานพัฒนาระบบความปลอดภัยทางถนน (สพถ.) ระบุว่า พฤติกรรมการไม่หยุดให้ทางคนข้ามในเขตทางม้าลาย ถือเป็นความผิดที่พบได้บ่อยมากในไทย หลายเหตุการณ์สะท้อนชัดว่าแม้คนเดินข้ามถนนในจุดที่ควรปลอดภัย ก็ยังวางใจไม่ได้ การแก้ไขจึงไม่ใช่แค่การออกกฎหมายหรือเพิ่มโทษ แต่ต้องสร้างวัฒนธรรมเคารพกฎ และจิตสำนึกต่อความปลอดภัย

3. โครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมถนนไม่เอื้อต่อคนเดิน

คนเดินถนนจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับอันตรายจากถนน ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขา ไม่ว่าจะถนนที่ไม่มีทางเท้า, ไม่มีทางม้าลายที่ชัดเจน หรือไม่มีระบบป้องกันความเร็ว สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าความเสี่ยง บนท้องถนนไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมของผู้ใช้ถนนเพียงฝ่ายเดียว แต่โครงสร้างและระบบผังเมืองที่ละเลยผู้เดินเท้า

ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะนอกเขตเมืองหรือชานเมือง ถนนจำนวนมากไม่มีทางเท้าสำหรับคนเดิน หรือหากมีก็แคบเกินกว่าจะใช้งานจริง บางแห่งต้องเดินบนไหล่ทางร่วมกับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

4. การออกแบบที่ไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มเปราะบาง

ในประเทศไทยการออกแบบเมือง ยังไม่ครอบคลุมถึงความปลอดภัยของกลุ่มเปราะบาง (คนเดินเท้า เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ) อย่างเพียงพอ  ไม่ว่าจะเป็นถนนในเขตเมือง หรือนอกเมืองที่ใช้ความเร็วสูง ปัญหาที่พบได้บ่อย

  • ไม่มีทางเท้า หรือมีแต่แคบและใช้ไม่ได้จริง เช่น มีสิ่งกีดขวาง วางของขาย หรือไม่เชื่อมต่อกันต่อเนื่อง
  • ขาดจุดข้ามถนนที่ปลอดภัย เช่น ไม่มีทางม้าลาย ไฟข้ามถนน หรือสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทำให้คนต้องตัดสินใจข้ามในจุดเสี่ยง
  • ไม่มีระบบชะลอความเร็วในพื้นที่ชุมชน เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก หรือสถานีขนส่ง แม้จะมีคนเดินถนนจำนวนมาก แต่ถนนกลับออกแบบเพื่อให้รถวิ่งได้สะดวกมากกว่า
  • พื้นที่นอกเมืองหรือเขตชนบท ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับคนเดินถนน ทั้งๆ ที่บางจุดเป็นทางผ่านไปยังป้ายรถเมล์ โรงเรียน หรือร้านค้าในชุมชน

การออกแบบเมืองที่เน้นแต่การระบายรถยนต์ ไม่คำนึงถึงการเดินเท้าหรือการเข้าถึงของกลุ่มเปราะบาง จึงไม่เพียงแค่ทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่ยังสร้างความเสี่ยงที่อาจทำให้อุบัติเหตุได้ง่าย

 

เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ?

เมื่อคนเดินถนนประสบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะได้รับการเยียวยา แม้จะมีคู่กรณีชัดเจน แต่หลายครั้งรถยนต์ที่ก่อเหตุไม่มีประกันภัย หรือหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ทำให้การเรียกร้องสิทธิและดำเนินคดีใช้เวลานาน

แม้จะมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ แต่การเยียวยาจะครอบคลุมเฉพาะกรณีที่รถมีประกัน พ.ร.บ.เท่านั้น หากรถคู่กรณีไม่มี หรือผู้เดินถนนไม่สามารถระบุทะเบียนรถได้ ก็อาจไม่ได้รับการชดเชย

ในสถานการณ์แบบนี้ การมี ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล จึงกลายเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้บาดเจ็บเข้าถึงค่ารักษาและเงินชดเชยโดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความผิดจากคู่กรณี

 

ความคุ้มครองที่คนเดินถนนควรมีเพื่อความอุ่นใจทุกก้าว

แม้จะไม่ได้ขับรถ แต่คนเดินถนนก็เผชิญความเสี่ยงบนท้องถนนไม่ต่างจากผู้ใช้รถยนต์ ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อความปลอดภัย โอกาสเกิดอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเมื่อเกิดเหตุขึ้น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้ หรือผลกระทบต่อชีวิต อาจกลายเป็นภาระทางการเงินที่คาดไม่ถึง

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยปกป้องคนเดินเท้าให้ได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกรณีบาดเจ็บ, ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จากอุบัติเหตุ โดยไม่จำกัดว่าเหตุจะเกิดบนถนน ทางม้าลาย หรือในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ กรมธรรม์บางแผนยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น 

  • ค่ารักษาพยาบาลตามจริง ทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
  • ค่าชดเชยรายได้รายวัน ในกรณีต้องพักฟื้นหรือหยุดงาน
  • เงินชดเชยพิเศษ หากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง เช่น สูญเสียอวัยวะหรือเสียชีวิต

ประกันประเภทนี้เหมาะกับคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้ที่ ต้องเดินเท้าประจำ, ใช้รถสาธารณะ, หรือเดินทางคนเดียวบ่อยครั้ง เพราะความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมของเราเสมอไป แต่เกิดจากคนอื่นและสภาพแวดล้อมรอบตัวที่ควบคุมไม่ได้

 

เพื่อความอุ่นใจทุกก้าวของคุณและคนที่คุณรัก ขอแนะนำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล TIP PA Super Plus จากทิพยประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาล พร้อมแผนความคุ้มครองที่ปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ สอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736 

#Tag: