ป่วยอย่าขับ! 9 โรค ห้ามขับรถและห้ามทำใบขับขี่รถยนต์
12 มิถุนายน 2025
ผู้ชม: 35 คน

ป่วยอย่าขับ! 9 โรค ห้ามขับรถและห้ามทำใบขับขี่รถยนต์

ไม่พร้อมอย่าขับ! การขับรถยนต์ไม่ไช่แค่การใช้ทักษะควบคุมพวงมาลัยหรือเหยียบเบรกเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยสมาธิ สภาพร่างกาย และจิตใจที่พร้อมตลอดเวลา เพราะหากผู้ขับขี่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง อาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งตัวเอง และเพื่อนร่วมทาง
เพราะเหตุผลนี้ กรมการขนส่งทางบกจึงกำหนดชัดเจนว่า มี 9 โรคต้องห้าม ไม่ให้ขอหรือต่ออายุใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เนื่องจากเป็นโรคที่อาจทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างร้ายแรง
และ 9 โรคต้องห้ามมีอะไรบ้าง เหตุใดถึงเป็นอันตรายต่อการขับรถ และหากมีโรคเหล่านี้ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นบนท้องถนน

 

9 โรคต้องห้ามในการขอต่อใบขับขี่รถยนต์

เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนนคนอื่น กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้ที่มีโรคต่อไปนี้จะไม่สามารถขอหรือทำการต่ออายุใบขับขี่ได้

1. โรคลมชัก (Epilepsy)

เป็นโรคที่มีภาวะชักหรือหมดสติแบบเฉียบพลัน หากเกิดอาการขณะขับรถ อาจทำให้ผู้ขับเสียการควบคุมรถทันที เสี่ยงต่ออุบัติเหตุรุนแรงอย่างมาก

2. โรคหัวใจชนิดที่มีอาการรุนแรง

เช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง หากเกิดภาวะหัวใจวายหรือหมดสติขณะขับรถ จะเป็นอันตรายทั้งต่อชีวิตผู้ขับและผู้ร่วมทาง

3. โรคความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรง

อาจนำไปสู่ภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน

4. โรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

โดยเฉพาะผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนหมดสติระหว่างขับรถ

5. โรคทางจิตเวชที่มีอาการรุนแรง

เช่น โรคจิตเภท โรคซึมเศร้ารุนแรง หรือภาวะหลงผิด ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ การควบคุมอารมณ์ และการรับรู้ความเสี่ยง

6. โรคติดยาเสพติดหรือสารเสพติดให้โทษ

ผู้ที่ยังอยู่ในภาวะเสพติดสาร เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน จะมีสภาพจิตใจและการตอบสนองที่ผิดปกติ ไม่ปลอดภัยในการขับขี่อย่างยิ่ง

7. โรคพิษสุราเรื้อรัง

ผู้ที่ติดสุราเรื้อรังมีแนวโน้มจะสูญเสียการควบคุมตนเอง และหากอยู่ในอาการเมา จะไม่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย

8. โรคตาบอดกลางคืน (Night Blindness)

ผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นในเวลากลางคืน จะขาดความสามารถในการขับรถช่วงเย็นหรือค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง

9. โรคเรื้อนหรือวัณโรคในระยะแพร่กระจาย

โรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถแพร่เชื้อได้ง่าย หากยังไม่ได้รับการรักษาจนหายขาด จะไม่สามารถขอใบขับขี่ได้

 

ทำไมต้องมีใบรับรองแพทย์ในการทำใบขับขี่

1. ตรวจสอบความพร้อมของร่างกายและจิตใจ

การขับรถต้องใช้ทั้งสายตา สมาธิ การตอบสนองทางร่างกาย และการตัดสินใจอย่างฉับไว ใบรับรองแพทย์จึงช่วยยืนยันว่าผู้ขอใบขับขี่มีสุขภาพดีพอที่จะขับรถได้อย่างปลอดภัย

2. ป้องกันไม่ให้ผู้มีโรคต้องห้ามขับรถ

ใบรับรองแพทย์ช่วยคัดกรองเบื้องต้นว่าผู้ขอใบขับขี่ไม่มีโรคต้องห้าม 9 กลุ่มโรค เช่น ลมชัก โรคจิต โรคหัวใจรุนแรงฯลฯ เพราะโรคเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้ขับเกิดอาการเฉียบพลันระหว่างขับรถ และเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น

3. เป็นมาตรการความปลอดภัย

การขับรถบนถนนไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับผู้คนรอบข้าง หากผู้ขับมีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการควบคุมรถ ที่อาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้น การมีใบรับรองแพทย์จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ถือใบขับขี่มีความพร้อมจริง

4. รองรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติหรืออุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการพิจารณาว่าผู้ขับมีความพร้อมหรือมีโรคประจำตัวหรือไม่

 

หากป่วยภายหลังมีใบขับขี่อยู่แล้วต้องแจ้งหรือไม่?

แม้คุณจะมีใบขับขี่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ภายหลังพบว่ามีโรคในกลุ่มต้องห้าม คุณมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบกทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่อย่างร้ายแรง หากยังฝืนขับรถโดยไม่แจ้งและเกิดอุบัติเหตุ อาจถูกดำเนินคดี และบริษัทประกันภัยปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหม ด้วยเหตุปกปิดข้อมูลสุขภาพ

หรือในกรณีที่คุณหยุดขับรถเพื่อรักษา และอาการดีขึ้นแล้ว สามารถกลับมาใช้ใบขับขี่ได้ เมื่อมีใบรับรองแพทย์ ที่ระบุชัดเจนว่าสุขภาพคุณพร้อมกลับมาขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

 

นีคือ 9 โรคต้องห้ามตามที่กรมการขนส่งทางบกระบุไว้ เป็นมาตรการสำคัญที่ออกแบบมาเพื่อ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพราะผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยบางอย่าง อาจไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย

แต่อย่าลืมว่า… แม้คุณจะขับรถอย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด แต่อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ หากรถคันอื่นขับผิดกฎหรือประมาท คุณอาจเป็นผู้เสียหายโดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยคุ้มครองคุณเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน คือ ประกันรถยนต์

ที่พร้อมดูแลคุณ ทั้งค่าซ่อม ค่ารักษาพยาบาล และความเสียหายต่างๆ เลือกทำประกันรถยนต์กับทิพยประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม บริการรวดเร็ว พร้อมช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736 

#Tag: