ปัญหาปวดหัวเลี้ยงสัตว์ในคอนโด เลี้ยงอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา?
การเลี้ยงสัตว์เป็นความสุขเล็กๆ ที่เติมเต็มชีวิตให้กับคนเมืองได้ไม่น้อย แต่เมื่อคุณอยู่ในคอนโดมิเนียมซึ่งมีพื้นที่จำกัดและกฎระเบียบ การเลี้ยงสัตว์ก็อาจกลายเป็นเรื่องชวนปวดหัวได้ง่ายๆ ทั้งเรื่องเสียงดัง กลิ่นไม่พึงประสงค์ การดูแลสัตว์ในพื้นที่จำกัด หรือแม้แต่ปัญหากับเพื่อนบ้าน
หลายคนอยากเลี้ยงน้องหมา น้องแมว แต่ก็ติดคำถามว่า คอนโดที่อยู่อนุญาตหรือเปล่า?, สัตว์จะอยู่ได้อย่างสบายไหม? หรือ เราจะรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้แค่ไหน? การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องมีการวางแผนและดูแลอย่างเหมาะสม
TIPINSURE ชวนมาดูแนวทางการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา ทั้งการดูแลความสะอาด การลดเสียงรบกวน ไปจนถึงการปรับพฤติกรรมสัตว์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมือง เพื่อให้คุณและสัตว์เลี้ยงใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างราบรื่น และไม่เป็นภาระเพื่อนบ้าน
ศึกษากฎระเบียบของคอนโดก่อนเลี้ยงสัตว์
ก่อนตัดสินใจพาน้องหมาน้องแมวเข้ามาอยู่ด้วยในคอนโด สิ่งแรกที่คุณควรทำคือ การตรวจสอบข้อบังคับและระเบียบของนิติบุคคลอาคารชุด ว่ามีนโยบายเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์อย่างไรบ้าง บางคอนโดอาจ ไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด ในขณะที่บางแห่ง อนุญาตแบบมีเงื่อนไข เช่น
- จำกัดประเภทสัตว์ (เช่น เลี้ยงได้เฉพาะแมวหรือสัตว์ตัวเล็ก)
- จำกัดขนาดหรือน้ำหนักของสัตว์
- อนุญาตให้เลี้ยงได้แค่ห้องละ 1 ตัว
- ต้องมีการลงทะเบียนสัตว์กับนิติบุคคล
หากคุณละเลยหรือฝ่าฝืนกฎ อาจถูกแจ้งเตือน ปรับเงิน หรือในบางกรณีถึงขั้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือถูกบังคับให้นำสัตว์ออกจากที่พัก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงเลย ดังนั้น หากคุณรักสัตว์และอยากให้พวกเขาอยู่ได้อย่างสบายใจ ควรเริ่มต้นอย่างถูกต้อง
เลือกสัตว์เลี้ยงให้เหมาะกับพื้นที่
การอยู่ในคอนที่มีพื้นที่จำกัด ทำให้การเลือกสัตว์เลี้ยงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะสัตว์บางชนิดต้องการพื้นที่ในการวิ่งเล่น การปลดปล่อยพลังงาน หากพื้นที่ไม่เพียงพออาจทำให้สัตว์เกิดความเครียด เบื่อหน่าย หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าวตามมา
สัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับคอนโดควรเป็นพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก นิสัยสงบ ไม่ส่งเสียงดัง และสามารถปรับตัวอยู่ในพื้นที่แคบได้ดี เช่น
- สุนัขพันธุ์ชิสุ พุดเดิ้ล ปั๊ก ขนาดเล็ก รักสงบ ไม่ต้องการออกกำลังกายหนัก
- แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ อเมริกันชอร์ตแฮร์ อ่อนโยน ขี้อ้อน ไม่ค่อยส่งเสียงดัง
- สัตว์ตัวเล็กอื่น ๆ เช่น กระต่าย แฮมสเตอร์ หรือเต่า ต้องการพื้นที่เฉพาะและการดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ
การเลือกสัตว์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และขนาดของห้องไม่เพียงแต่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีความสุข แต่ยังช่วยลดปัญหาในการดูแล ทำความสะอาด และป้องกันการรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย
จัดมุมสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ
แม้พื้นที่ในคอนโดจะมีจำกัด แต่การกำหนดพื้นที่เฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้น้องรู้สึกปลอดภัย มีขอบเขตในการใช้ชีวิต และช่วยเจ้าของจัดการเรื่องความสะอาดได้ง่ายขึ้น
พื้นที่ของสัตว์ควรรองรับกิจกรรมหลัก 3 อย่าง
- ที่พักผ่อน วางเบาะหรือที่นอนนุ่มๆ ในจุดที่เงียบ ไม่โดนลมแรงหรือแดดจัด เพื่อให้น้องนอนหลับอย่างสบาย
- ที่ขับถ่าย จัดวางกระบะทราย (สำหรับแมว) หรือแผ่นรองฉี่ (สำหรับสุนัข) ในจุดที่ห่างจากที่กินและที่นอน พร้อมหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ
- ที่เล่นหรือปีนป่าย เตรียมของเล่นหรือคอนโดแมวให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ เพื่อให้สัตว์ได้ผ่อนคลายและไม่ไปทำลายเฟอร์นิเจอร์
การจัดพื้นที่ให้สัตว์อย่างเป็นสัดส่วนไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องระเบียบ แต่ช่วยปรับพฤติกรรมที่ดี ลดความเครียด และทำให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวกับการอยู่ในคอนโดได้ดียิ่งขึ้น
ควบคุมกลิ่นและเสียง
หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยในการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดคือ กลิ่นไม่พึงประสงค์ และ เสียงรบกวน ที่มักสร้างความรำคาญให้กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านได้ ดังนั้นเจ้าของควรให้ความสำคัญกับการควบคุมทั้งสองเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น
ในเรื่องของ กลิ่น ควร
- ใช้ทรายแมวคุณภาพดีที่ดูดซับกลิ่นได้ดี และเปลี่ยนทรายอย่างสม่ำเสมอ
- สำหรับสุนัข ให้ใช้แผ่นรองฉี่ที่ดูดซึมดี และหมั่นเปลี่ยนทันทีเมื่อมีของเสีย
- ทำความสะอาดกรง ที่นอน และของเล่นเป็นประจำ
- อาบน้ำสัตว์ตามรอบ และใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างปลอดภัย
ในเรื่องของ เสียง ควร
- ฝึกให้น้องไม่เห่าหรือร้องโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- หากสัตว์มีพฤติกรรมเห่าตอนเจ้าของไม่อยู่ อาจลองเปิดเพลงเบาๆ หรือให้ของเล่นไว้ช่วยลดความเหงา
- หมั่นพูดคุย เล่น หรือพาน้องออกกำลังกายให้พลังงานถูกปลดปล่อย ไม่กดดันจนนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวหรือเสียงดัง
การควบคุมกลิ่นและเสียงอย่างมีวินัย เป็นสิ่งสำคัญของการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด เพื่อให้ทั้งเจ้าของและเพื่อนบ้านอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
พาน้องออกกำลังกายนอกห้อง
สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมว แม้จะอยู่ในคอนโดก็ยังต้องการการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกาย ลดความเครียด และควบคุมน้ำหนัก การเคลื่อนไหวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และระบบขับถ่าย หากคอนโดของคุณมีพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สนามหญ้า ลานพักผ่อน หรือสวนหย่อม ควรพาน้องออกไปเดินเล่นในช่วงเวลาที่ปลอดคนในตอนเช้าหรือตอนเย็น และควรใส่สายจูงตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย
หากไม่มีพื้นที่นอกห้องหรือสภาพอากาศไม่อำนวย อาจปรับพื้นที่ภายในห้องให้เหมาะกับการเคลื่อนไหว เช่น
- ใช้ลู่วิ่งสัตว์เลี้ยง
- จัดโซนให้แมวปีนป่าย หรือเล่นของเล่นที่กระตุ้นการวิ่งและกระโดด
- เล่นโยนของเล่น หรือดึงเชือกกับน้องหมาเพื่อให้เคลื่อนไหวอย่างสนุกสนาน
การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ทำให้สัตว์เลี้ยงสุขภาพดี แต่ยังช่วยให้พวกเขาสงบลง ไม่เห่า/ร้องโดยไม่จำเป็น และนอนหลับได้ดีขึ้น
ฝึกวินัยสัตว์เลี้ยงในคอนโด
การอยู่ในพื้นที่จำกัดทำให้การฝึกวินัยสัตว์เลี้ยงกลายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพฤติกรรมเล็กๆ ที่ดูไม่ร้ายแรง เช่น การเห่าเสียงดัง การขับถ่ายไม่เป็นที่ หรือกระโจนขึ้นเฟอร์นิเจอร์ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตประจำวัน ทั้งกับเจ้าของเองและเพื่อนบ้าน
การฝึกควรเริ่มตั้งแต่ยังเล็ก หรือทันทีที่รับมาเลี้ยง โดยเน้นให้
- ขับถ่ายเป็นที่ เช่น ใช้แผ่นรองซับหรือกระบะทรายในจุดประจำ
- ไม่เห่าหรือร้องเมื่ออยู่ลำพัง ฝึกให้อยู่เงียบๆ ตามลำพัง เป็นระยะเวลาสั้นๆ และเพิ่มเวลาขึ้น และใช้ของเล่นหรือขนมช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ
- ไม่ขึ้นเฟอร์นิเจอร์ โดยตั้งขอบเขตชัดเจน และให้รางวัลเมื่อทำตามคำสั่ง
การฝึกวินัยต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ความอดทน และไม่ควรใช้ความรุนแรง เพราะจะทำให้น้องกลัว ยิ่งต่อต้าน
รับผิดชอบและมีน้ำใจต่อเพื่อนบ้าน
การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดไม่ใช่แค่เรื่องของเจ้าของและสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับเพื่อนบ้านรอบข้างที่อยู่ในพื้นที่ร่วมกัน การแสดงความรับผิดชอบและมีน้ำใจต่อผู้อื่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การอยู่ร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น
ควรเริ่มต้นจากการไม่ปล่อยให้น้องเดินเพ่นพ่านในพื้นที่ส่วนกลางโดยไม่มีสายจูง ให้อยู่ในกระเป๋าสำหรับสัตว์เลี้ยงเมื่ออยู่ในลิฟต์ โถงทางเดิน เพื่อป้องกันการตกใจ วิ่งหนี หรือไปสร้างความหวาดกลัวให้ผู้อื่น
เมื่อพาน้องออกไปข้างนอกต้องเก็บมูลสัตว์ทุกครั้ง พร้อมพกถุงเก็บขยะและอุปกรณ์ทำความสะอาดติดตัวเสมอ เพื่อรักษาความสะอาดไม่เป็นที่รังเกียจของผู้ร่วมอาศัย
หากสัตว์ของคุณส่งเสียงดังในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ควรรีบหาทางแก้ไข ไม่เพิกเฉย และถ้าเกิดปัญหากับเพื่อนบ้าน ควรเปิดใจพูดคุยและแสดงท่าทีรับผิดชอบอย่างสุภาพ
การมีสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก ควรมาพร้อมกับพฤติกรรมเจ้าของที่น่ารักเช่นกัน เมื่อคุณดูแลสัตว์อย่างเหมาะสมและเคารพสิทธิผู้อื่น การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดก็จะไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
เตรียมประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงก็เหมือนสมาชิกในครอบครัว ที่ต้องการการดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือการเข้ารับการผ่าตัด ค่าใช้จ่ายในการรักษาก็มักตามมาไม่น้อย การเตรียมความพร้อมด้วยการทำประกันสัตว์เลี้ยง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดภาระและเพิ่มความอุ่นใจ
ประกันสัตว์เลี้ยงจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุหรือโรคต่างๆ รวมถึงค่ารักษาต่อเนื่อง เช่น ค่าห้อง ค่ายา ค่าวัคซีน และอาจรวมถึงความเสียหายที่สัตว์เลี้ยงก่อขึ้นต่อบุคคลภายนอกในบางกรณี
แนะนำประกันสัตว์เลี้ยง TIP Pet Lover จากทิพยประกันภัย คุ้มครองสุขภาพน้องหมา น้องแมว ให้คุณดูแลพวกเขาได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเขาเจ็บปวดตรงไหน การมีประกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คือการแสดงความใส่ใจและรับผิดชอบในฐานะเจ้าของที่ดี เลี้ยงน้องด้วยความรัก และปกป้องเขาด้วยความพร้อม
สอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736