เที่ยวจิ่วจ้ายโกวเดือนไหนดีกับ 4 ฤดูที่แตกต่างธรรมาชาติหลากสไตล์
17 พฤศจิกายน 2025
ผู้ชม: 20 คน

จิ่วจ้ายโกวเที่ยวเดือนไหนดี เจาะลึก 4 ฤดูหลากสไตล์ที่ไม่ควรพลาด

จิ่วจ้ายโกวเที่ยวเดือนไหนดี
หากพูดถึงดินแดนที่งดงามราวกับภาพวาดราวกับสวรรค์บนโลกมนุษย์ ชื่อของ อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) มักจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงเสมอ ที่นี่คือมรดกโลกทางธรรมชาติ (UNESCO World Heritage Site) ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือด้านความงามของทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์สดใส น้ำตกขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง และทิวทัศน์ขุนเขาที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกฤดูกาล จนได้รับฉายาว่า หุบเขาธารสวรรค์ การเดินทางไปเยือนจิ่วจ้ายโกวสักครั้งในชีวิตจึงเป็นความฝันของนักเดินทางทั่วโลก แต่คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นเสมอคือ เที่ยวจิ่วจ้ายโกวเดือนไหนดี ที่จะทำให้เราได้พบกับภาพความงามที่น่าประทับใจที่สุด TIPINSURE จะพาคุณไปเจาะลึกในทุกแง่มุมเพื่อค้นหาคำตอบที่ใช่สำหรับสไตล์การเดินทางของคุณ

 

เที่ยวจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) เดือนไหนดีที่สุด

ช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยงามและน่าประทับใจที่สุดคือ ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งตรงกับช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ในช่วงเวลานี้จิ่วจ้ายโกวอากาศจะเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้สีของใบไม้ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดง ฉายสะท้อนลงบนผืนน้ำสีฟ้าครามใสราวกับกระจก เกิดเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามเกินกว่าคำบรรยายใด ๆ อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของจิ่วจ้ายโกวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น แต่ในแต่ละฤดูกาลก็มีความงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่รอให้ทุกคนไปสัมผัส ซึ่งเราจะพาไปสำรวจกันในลำดับถัดไป

 

เจาะลึกสภาพอากาศและไฮไลต์เที่ยวจิ่วจ้ายโกวตลอดทั้งปี

การทำความเข้าใจสภาพอากาศจิ่วจ้ายโกวในแต่ละช่วงเวลา จะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางและเตรียมตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ทริปของคุณน่าจดจำและราบรื่นที่สุด

จิ่วจ้ายโกวฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - ตุลาคม) ที่สุดแห่งความงามหลากสีสัน

นี่คือช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็น นาทีทอง ของการมาเยือนจิ่วจ้ายโกวอย่างแท้จริง สรรพสีของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีจะแต่งแต้มหุบเขาทั้งผืนให้กลายเป็นเหมือนภาพวาดชิ้นเอกของธรรมชาติจิ่วจ้ายโกว อากาศในช่วงนี้จะเย็นสบาย ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-22 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าส่วนใหญ่จะโปร่ง ทำให้แสงแดดสาดส่องลงมากระทบผืนน้ำและใบไม้ เกิดเป็นภาพที่งดงามจนลืมหายใจ

ไฮไลต์

  • ชมใบไม้เปลี่ยนสี จุดเด่นที่สุดของฤดูนี้คือการชมสีสันของใบไม้ที่ไล่เฉดตั้งแต่เขียว เหลือง ส้ม ไปจนถึงแดงสดทั่วทั้งหุบเขา
  • ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake) ในช่วงนี้ น้ำในทะเลสาบจะใสเป็นพิเศษจนมองเห็นเงาสะท้อนของภูเขาและใบไม้หลากสีสันได้อย่างชัดเจนและงดงามที่สุด
  • น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall) แสงแดดที่ตกกระทบม่านน้ำที่ไหลผ่านแนวหิน ทำให้เกิดประกายระยิบระยับราวกับไข่มุก ตัดกับสีสันของป่าโดยรอบ

ข้อควรรู้

  • เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทำให้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก
  • ราคาตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และบริการต่าง ๆ จะสูงกว่าช่วงอื่น
  • ควรจองที่พักและตั๋วเข้าอุทยานล่วงหน้าเป็นเวลานานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเต็ม

ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) ดินแดนเทพนิยายหิมะ

สำหรับใครที่หลงใหลในความงามอันเงียบสงบและภาพของหิมะขาวโพลน ฤดูหนาวของจิ่วจ้ายโกวจะเปลี่ยนดินแดนแห่งนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งเทพนิยายน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจ อากาศที่จิ่วจ้ายโกวจะหนาวเย็นจัด อุณหภูมิอาจลดลงต่ำถึง -10 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านั้นในตอนกลางคืน หิมะจะปกคลุมยอดเขาและพื้นดินโดยรอบ ทะเลสาบบางแห่งจะกลายเป็นน้ำแข็งสีฟ้าครามใส ให้บรรยากาศที่แปลกตาและน่าค้นหา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาประสบการณ์เที่ยวที่ไม่เหมือนใคร

ไฮไลต์

  • น้ำตกแข็ง (Frozen Waterfalls) ชมความอัศจรรย์ของน้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งย้อยขนาดมหึมา เช่น น้ำตกนั่วรื่อหลาง (Nuorilang Waterfall)
  • ทะเลสาบน้ำแข็งสีฟ้า ทะเลสาบหลากสีสันจะถูกปกคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็งใสสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นสีฟ้าสวยงาม
  • หิมะขาวโพลน สัมผัสกับทิวทัศน์ของป่าเขาและทางเดินที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ให้ความรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซี

ข้อควรรู้

  • เป็นช่วง Low Season นักท่องเที่ยวน้อยมาก ทำให้เที่ยวชมได้อย่างสงบและเป็นส่วนตัว
  • ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ที่พักและตั๋วเข้าชม จะถูกลงอย่างเห็นได้ชัด
  • จิ่วจ้ายโกว อากาศหนาวจัด ต้องเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปให้พร้อมและเพียงพอ
  • บางเส้นทางหรือบางจุดท่องเที่ยวในอุทยานอาจปิดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

จิ่วจ้ายโกวฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม): ชมความงามแห่งการเริ่มต้น

หลังจากฤดูหนาวอันยาวนานผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ผลิจะนำพาชีวิตชีวากลับคืนสู่หุบเขาจิ่วจ้ายโกวอีกครั้ง หิมะบนยอดเขาจะเริ่มละลายกลายเป็นสายน้ำที่เติมเต็มทะเลสาบและน้ำตกให้กลับมาสวยอีกครั้ง ต้นไม้ใบหญ้าจะเริ่มผลิใบอ่อนเป็นสีเขียวสดใส แซมด้วยดอกไม้ป่าที่เริ่มเบ่งบาน อากาศที่จิ่วจ้ายโกวในช่วงนี้จะยังคงเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-18 องศาเซลเซียส แต่ก็อาจมีความแปรปรวนอยู่บ้าง เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นที่สดชื่นและมีชีวิตชีวา

ไฮไลต์

  • น้ำในทะเลสาบเต็มเปี่ยม หิมะที่ละลายจากยอดเขาทำให้น้ำในทะเลสาบมีปริมาณมากและใสสะอาดเป็นพิเศษ
  • ดอกไม้ป่า ชมดอกไม้นานาพันธุ์ที่เริ่มผลิบานตามเส้นทางเดิน สร้างสีสันและความสดใสให้กับผืนป่า
  • ความเขียวขจีที่เริ่มต้น มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติจากสีน้ำตาลแห้งในฤดูหนาวสู่สีเขียวชอุ่มของการเริ่มต้นใหม่

ข้อควรรู้

  • อากาศที่จิ่วจ้ายโกวช่วงนี้ยังคงเปลี่ยนแปลงบ่อย ในหนึ่งวันอาจเจอทั้งแดดออกและฝนตก ควรเตรียมเสื้อผ้าที่ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
  • นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะเท่าฤดูใบไม้ร่วงและฤดูร้อน ทำให้ยังคงเที่ยวชมได้ค่อนข้างสบาย

 

ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม): สวรรค์สีเขียวชอุ่มสดใส

ฤดูร้อนในจิ่วจ้ายโกวคือช่วงเวลาที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และเขียวขจีที่สุด ต้นไม้ทุกต้นจะแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเต็มที่ ทำให้ทั้งหุบเขาเต็มไปด้วยสีเขียวสดชื่นสบายตา น้ำตกทุกแห่งจะทรงพลังและยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีเนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก อากาศจะอบอุ่นและสดชื่น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18-28 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเขียวชอุ่มและมีชีวิตชีวาของธรรมชาติ การเดินทางมา Jiuzhaigou ในช่วงนี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

ไฮไลต์

  • ป่าเขียวขจี สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เขียวชอุ่มที่สุดในรอบปี
  • น้ำตกที่ยิ่งใหญ่ เป็นช่วงที่น้ำตกทุกแห่ง เช่น น้ำตกธารไข่มุก และน้ำตกนั่วรื่อหลาง จะมีปริมาณน้ำมากที่สุด ทำให้ดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม
  • อากาศสดชื่น ถึงแม้จะเป็นฤดูร้อน แต่ด้วยความสูงและสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าเขา ทำให้จิ่วจ้ายโกวช่วงนี้มีอากาศเย็นสบายและสดชื่นกว่าในเมืองมาก

ข้อควรรู้

  • เป็นช่วงฤดูฝน อาจมีฝนตกได้บ่อย ควรเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วย
  • ตรงกับช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนของจีน อาจมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
  • เส้นทางเดินบางจุดอาจลื่น ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดินป่า

 

ตารางเปรียบเทียบเที่ยวจิ่วจ้ายโกวในแต่ละเดือน

เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า เที่ยวจิ่วจ้ายโกวเดือนไหนดี เราได้สรุปข้อมูลสำคัญของแต่ละฤดูมาให้ในรูปแบบตารางที่เข้าใจง่าย เพื่อการวางแผนทริปจิ่วจ้ายโกวที่แสนตื่นเต้นในแบบของคุณ

ฤดูกาล ช่วงเดือน อุณหภูมิเฉลี่ย (°C) ไฮไลต์เด่น ข้อควรรู้
ใบไม้ร่วง กันยายน - ตุลาคม 10 - 22°C ใบไม้เปลี่ยนสี, น้ำในทะเลสาบใสที่สุด, ท้องฟ้าโปร่ง High Season, คนเยอะ, ราคาแพง, ต้องจองล่วงหน้า
หนาว พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ -10 - 5°C น้ำตกแข็ง, หิมะขาวโพลน, ทะเลสาบน้ำแข็งสีฟ้า Low Season, คนน้อย, ราคาถูก, อากาศหนาวจัด, บางจุดอาจปิด
ใบไม้ผลิ มีนาคม - พฤษภาคม 5 - 18°C หิมะละลาย, น้ำเต็มทะเลสาบ, ดอกไม้ป่าเริ่มบาน อากาศแปรปรวน, คนไม่เยอะ, เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สวยงาม
ร้อน มิถุนายน - สิงหาคม 18 - 28°C ป่าไม้เขียวขจี, น้ำตกยิ่งใหญ่ที่สุด, อากาศสดชื่น อาจเจอฝน, เป็นช่วงปิดเทอมของจีน, คนค่อนข้างเยอะ

 

ก่อนไปจิ่วจ้ายโกว เตรียมตัวอย่างไรต้องรู้อะไรบ้าง

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากไปสัมผัสความงามของ Jiuzhaigou ในช่วงไหน การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทริปของคุณราบรื่นและปลอดภัย เพื่อให้คุณพร้อมเต็มที่สำหรับประสบการณ์ครั้งสำคัญนี้

การเดินทางไปจิ่วจ้ายโกว

โดยทั่วไปแล้ว การเดินทางจากประเทศไทยไปยังจิ่วจ้ายโกวที่สะดวกที่สุดคือการนั่งเครื่องบินไปลงที่เมืองเฉิงตู (Chengdu) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน จากนั้นมี 2 ทางเลือกหลักในการเดินทางต่อไปยังอุทยานฯ

  • เครื่องบิน นั่งเครื่องบินภายในประเทศจากเฉิงตูไปลงที่สนามบินจิ่วไจ้หวงหลง (Jiuzhai Huanglong Airport - JZH) ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง จากสนามบินจะมีรถบัสหรือรถแท็กซี่ต่อไปยังปากทางเข้าอุทยานฯ ใช้เวลาอีกประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง
  • รถบัส สำหรับสายผจญภัยและต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถนั่งรถบัสทางไกลจากเฉิงตูไปยังจิ่วจ้ายโกวได้ ใช้เวลาเดินทางยาวนานประมาณ 8-10 ชั่วโมง แต่จะได้ชมวิวทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง

การเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล

เนื่องจากจิ่วจ้ายโกวตั้งอยู่บนที่ราบสูง ทำให้ที่จิ่วจ้ายโกวมีอากาศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดวัน การเตรียมเสื้อผ้าแบบ เลเยอร์ หรือใส่ซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้สามารถถอดหรือใส่เพิ่มได้ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป

  • ฤดูใบไม้ร่วง/ใบไม้ผลิ ควรมีเสื้อยืด, เสื้อแขนยาว, เสื้อฟลีซหรือสเวตเตอร์ และแจ็กเกตกันลม/กันฝนด้านนอก
  • ฤดูร้อน เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แต่ควรพกเสื้อแจ็กเกตบาง ๆ และเสื้อกันฝนติดไปด้วย
  • ฤดูหนาว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีเสื้อผ้ากันหนาวแบบจัดเต็ม ทั้งลองจอห์น, เสื้อฮีทเทค, สเวตเตอร์หนา ๆ, และเสื้อโค้ทกันหนาวกันลมตัวนอกสุด รวมถึงถุงมือ หมวก และผ้าพันคอ

เรื่องน่ารู้อื่น ๆ

  • อาการแพ้ความสูง (Altitude Sickness) ที่อุทยานจิ่วจ้ายโกวตั้งอยู่ที่ความสูงประมาณ 2,000-3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งอาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้ความสูงได้ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรเตรียมตัวโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ เดินช้า ๆ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาจเตรียมยาป้องกันไปล่วงหน้า
  • การจองตั๋ว ในช่วง High Season (โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วง) แนะนำให้จองตั๋วเข้าอุทยานฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อความแน่นอนและไม่ต้องไปต่อคิวยาว

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจิ่วจ้ายโกว

เที่ยวจิ่วจ้ายโกวกี่วันดี

เพื่อให้สามารถเที่ยวชมความงามของอุทยานจิ่วจ้ายโกวได้อย่างทั่วถึงและไม่เร่งรีบจนเกินไป แนะนำให้มีเวลาอย่างน้อย 2-3 วัน โดยแบ่งเป็น 1 วันเต็มสำหรับการเที่ยวชมภายในอุทยานฯ และอีก 1-2 วันสำหรับการเดินทางไป-กลับ และพักผ่อนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศและความสูง

ไปกับทัวร์หรือเที่ยวเองดีกว่า

การตัดสินใจระหว่างไปกับทัวร์หรือเที่ยวเองขึ้นอยู่กับสไตล์และความถนัดของแต่ละคน

  • ไปกับทัวร์ สะดวกสบาย ไม่ต้องวางแผนเอง มีคนจัดการเรื่องการเดินทาง ที่พัก และตั๋วให้ทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่เดินทางครั้งแรกหรือไม่อยากยุ่งยาก
  • เที่ยวเอง มีอิสระและความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้เวลาในแต่ละจุดได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์การเดินทางและชอบวางแผนด้วยตัวเอง

งบประมาณเที่ยวจิ่วจ้ายโกวประมาณเท่าไหร่

งบประมาณสำหรับการเดินทางไป จิ่วจ้ายโกว อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฤดูกาล รูปแบบการเดินทาง และประเภทของที่พัก โดยประมาณการคร่าว ๆ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ) อาจอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 40,000 บาทต่อคน สำหรับทริป 3-4 วัน ซึ่งจะครอบคลุมค่าเดินทางภายในประเทศ, ค่าที่พัก, ค่าตั๋วเข้าอุทยานฯ, และค่าอาหาร

สรุปเกี่ยวกับจิ่วจ้ายโกว

 

สรุปบทความ

ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางไปเยือนจิ่วจ้ายโกวในฤดูไหน ดินแดนแห่งนี้ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและความทรงจำอันล้ำค่าให้เสมอ การวางแผนและเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญของทริปที่ราบรื่น และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อความอุ่นใจตลอดการเดินทางคือประกันการเดินทาง เพราะอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ การมีประกันเดินทางต่างประเทศจาก TIPINSURE จะช่วยคุ้มครองคุณจากความเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล กระเป๋าเดินทางเสียหาย หรือเที่ยวบินล่าช้า ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา เพื่อให้ทุกย่างก้าวของการเดินทางสำรวจความงามของจิ่วจ้ายโกวเป็นไปอย่างสบายใจไร้กังวล เพราะ TIPINSURE พร้อมดูแลคุณในทุกสถานการณ์





 

 

 

 

#Tag: