เช็กก่อน! เปรียบเทียบประกันรถยนต์ แบบไหนเหมาะกับใคร

               ประกันภัยรถยนต์มีหลายประเภทให้เลือก เพราะด้วยแต่ละคนที่ใช้รถมีความเสี่ยงที่ต่างกัน บางคนรถเก่า ป้ายแดง ไม่มีที่จอดรถ เหล่านี้ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณอดกังวลไม่ได้ว่าหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะต้องทำอย่างไร ฉะนั้นทางเลือกที่ทำให้อุ่นใจคือการทำประกันภัยนั้นเอง แต่ก็มิวายลังเลว่าจะเลือกแบบไหน วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลมาให้ได้ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ว่าแบบไหนเหมาะกับใครมากที่สุด ลองพิจารณาได้เลย

ประกันรถยนต์ชั้น 1

               อย่างที่ทราบกันว่าประกันภัยประเภทนี้ให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประเมินค่าซ่อมให้ราคาสูง อุบัติเหตุเบาและหนักสามารถแจ้งเคลมได้ทั้งหมด รวมถึงรถของคู่กรณีด้วย จึงทำให้หลายคนเลือกทำประกันประเภทนี้เพราะมองว่าคุ้มค่าและทุกวันนี้ก็มีความเสี่ยงสูง แต่เพื่อความชัดเจนเราจะมาบอกว่าประกันประเภทนี้เหมาะกับใคร ดังนี้  

• เหมาะกับรถใหม่ป้ายแดง เป็นเรื่องของความสบายใจ เพราะบางคนเชื่อว่ารถใหม่ยิ่งระวังมักจะมีเรื่องให้ต้องใจเสีย ฉะนั้นการทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จึงตอบโจทย์ อีกทั้งรถเหล่านี้เมื่อเกิดเหตุค่าซ่อม ค่าอะไหล่มักราคาสูง หากไม่มีประกันคุณอาจต้องแบกรับภาระเองทั้งหมด
• เหมาะกับมือใหม่หัดขับ กลุ่มคนเหล่านี้มักจะขาดประสบการณ์ในการขับ การตัดสินใจ รวมถึงไหวพริบในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเฉี่ยวชนหนักหรือเบาก็ตาม ประกันรถยนต์ชั้น 1 พร้อมให้การคุ้มครองทั้งสิ้น
• เหมาะกับรถที่ใช้งานตลอด ต้องบอกเลยว่าปัจจัยที่ทำให้รถเสียหายไม่เพียงเกิดจากตัวของผู้ขับขี่เท่านั้น ประเภทของงานก็มีส่วนที่ทำให้คุณต้องเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อจะได้มีผู้มาแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดเหตุขึ้น เพราะเราไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อใดที่จะเกิดอุบัติเหตุ

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+

               เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองคล้ายประกันรถยนต์ชั้น 1 ยกเว้นต้องเกิดการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น เราไปดูข้อมูล เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ประเภทนี้ว่าเหมาะกับใคร

• ประกันภัยชั้น 2 พลัส เหมาะกับผู้ที่ใช้รถเป็นประจำแต่จอดในพื้นที่เสี่ยง เช่น จอดไว้หน้าบ้าน จอดในพื้นที่สาธารณะหรือริมถนน หากมีความจำเป็นต้องจอดจริง ๆ เรื่องของอุบัติเหตุคงเลี่ยงไม่ได้ เพื่อป้องกันและแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดเหตุการทำประกันนี่แหละคือคำตอบ
• เหมาะกับคนที่ไม่มีที่จอดรถหรือบริเวณบ้าน กลุ่มคนเหล่านี้มีความเสี่ยงอย่างมาก เพราะอาจถูกเฉี่ยวชนได้ทุกเมื่อ ทางที่ดีควรป้องกัน้วยการทำประกันประเภทนี้ไว้ เบี้ยไม่แพงแถมได้รับความคุ้มครอง

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 และ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

               เป็นประกันภัยที่มีค่าเบี้ยประกันน้อยที่สุด ทำให้การคุ้มครองลดหลั่นไปด้วย เหมาะกับผู้ใช้รถ ดังนี้

• รถเก่าอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป แม้ว่างรถจะเก่าแต่ก็ต้องการความคุ้มครองจากการทำประกันภัยเช่นกัน เพราะเรายังคงต้องใช้รถในการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ
• รถใช้งานเป็นประจำ เมื่อรถถูกชนประกันภัยจะให้ความคุ้มครอง โดยไม่ต้องเสียเวลาติดตามเรื่องกับคู่กรณีเองในเรื่องของค่าเสียหาย หากคุณไม่มีความรู้ด้านนี้ว่าเป็นเรื่องยาก เรียกได้ว่าเจ้าหน้าที่จะคอยช่วยเหลือคุณในทุก ๆ ด้านเมื่อรถเกิดเหตุขึ้น

               จากข้อมูลที่เรานำมาเสนอ คงพอจะทำให้คุณสามารถ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ได้แล้วว่าการใช้รถของคุณนั้นเหมาะกับประกันภัยประเภทใด อย่างไรก็ดีแม้ว่ารถจะเก่ามากแค่ไหนหรือใช้งานน้อย การทำประกันก็ถือว่ามีความจำเป็นมากทีเดียว เพราะไม่เพียงให้ความอุ่นใจเท่านั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะชนหนักหรือเบา ทางบริษัทประกันจะคอยทำหน้าที่เรียกร้องค่าเสียหาย ติดตามคู่กรณีให้คุณได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเจ้าหน้าที่ไม่เพียงมีความรู้เรื่องกรมธรรม์เท่านั้น ในเรื่องของกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็มีความเข้าใจ ทำให้การเจรจาต่อรองง่ายขึ้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประเภทใดควรทำติดรถไว้เลย