น้ำท่วมรถ ทำไงดี? ประกันรถยนต์ คุ้มครองไหม
28 ตุลาคม 2022
ผู้ชม: 3005 คน

 

น้ำท่วมรถ ทำไงดี? ประกันรถยนต์ คุ้มครองไหม

 

               พายุฝนฟ้าคะนอง หรือ ภัยธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า หากฝนตกปกติก็คงไม่น่ากังวลเท่าไร แต่ถ้าวันไหนที่ฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง หรือฝนตกหนักๆ ก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ไปจนถึง น้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อผู้คนและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็น บ้านเรือน สิ่งของเครื่องใช้ รวมไปถึง รถยนต์ แสนรักของเรา ถ้าอย่างนี้ หากเกิดเหตุการณ์ น้ำท่วมรถ เราควรจะต้องทำอย่างไร แล้วหากเราทำประกันรถยนต์ไว้ จะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ และมีขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ อย่างไรบ้าง วันนี้ TIPINSURE มีคำตอบดีๆ มาฝากกันแล้ว

 

ประกันรถยนต์ ประเภทไหนบ้าง คุ้มครองน้ำท่วมรถ

               “น้ำท่วมรถ” เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะอาจทำให้รถยนต์เกิดความเสียหายได้ แม้ว่ารถยนต์จะทำประกันรถยนต์ไว้ ก็มีเพียงบางประเภทเท่านั้น ที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถ ซึ่งมีประกันรถยนต์ดังนี้

 

1. ประกันรถยนต์ ชั้น 1 คุ้มครองหายห่วง

               หากใครที่ทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ไว้ก็สบายใจหายห่วงได้เลยว่าจะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถแน่นอน นั่นก็เพราะว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี ไม่มีคู่กรณี ไปจนถึงเหตุไม่คาดฝันอื่นๆ เช่น รถหาย ไฟไหม้รถ และ น้ำท่วมรถ แต่ทั้งนี้การเคลมประกันจากเหตุน้ำท่วม ก็จะพิจารณาตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับรถยนต์คันที่ทำประกันเอาไว้

2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับ 3+ (บางกรมธรรม์)

               นอกจาก ประกันรถยนต์ ชั้น 1 จะคุ้มครอง น้ำท่วมรถ แล้วนั้น ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 2 พลัส  และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือ ประกันชั้น 3 พลัส ในบางกรมธรรม์ ก็ให้ความคุ้มครองหากรถยนต์ถูกน้ำท่วม เช่นกัน อย่างไรก็ดี ก่อนซื้อประกันรถยนต์ ก็อย่าลืมสอบถามรายละเอียดความคุ้มครองกับตัวแทนขายประกันก่อนว่า ประกันรถยนต์ที่เราสนใจนั้น คุ้มครองน้ำท่วมรถด้วยหรือไม่

 

น้ำท่วมรถ ทำไงดี ติดต่อเคลมประกันอย่างไร

               สำหรับใครที่ทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ประเภทอื่นที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถ สามารถติดต่อกับบริษัทประกันเพื่อดำเนินเรื่องขอเคลมประกันรถยนต์ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ในเหตุน้ำท่วมรถ เจ้าของรถควรบันทึกรายละเอียดเหตุการณ์อย่างละเอียด โดยถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอขณะที่น้ำท่วมรถ (ถ้าจะให้ดีควรให้เห็นทะเบียนรถยนต์ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานว่าเป็นรถคันเดียวกับที่ทำประกันรถยนต์ไว้)
  2. ติตต่อแจ้งบริษัทประกันเพื่อให้ทราบถึงเหตุการณ์เบื้องต้น
  3. เตรียมเอกสารสำหรับการเคลมประกัน ได้แก่
    • สำเนาใบขับขี่ และสำเนาบัตรประชาชน ของเจ้าของรถ
    • สำเนาทะเบียนรถยนต์
    • สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
  4. หลังน้ำลด ให้ติดต่อบริษัทประกันเพื่อให้มาตรวจสอบความเสียหาย
  5. เจ้าหน้าที่จะเข้ามาประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือนำรถเข้าอู่ซ่อมต่อไป

 

ประกันรถยนต์ มีหลักเกณฑ์พิจารณากรณีน้ำท่วมรถอย่างไร

               แม้ว่าประกันรถยนต์ที่เราทำไว้จะคุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถด้วย แต่ก็มีเงื่อนไขการพิจารณาว่ามีกรณีใดที่สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ และกรณีใดที่เคลมประกันไม่ได้ ดังนี้

ประกันรถยนต์คุ้มครอง : น้ำท่วมรถจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก ภัยธรรมชาติ ระดับน้ำค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นจนท่วมถนนที่กำลังเดินทางอยู่ หรือน้ำท่วมบริเวณที่จอดรถไว้ จนรถได้รับความเสียหาย

ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง: ผู้ขับขี่ขับรถเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วม โดยที่ทราบอยู่แล้วว่าเส้นทางนั้นมีน้ำท่วมหนัก หรือมีป้ายเตือน แต่ก็ยังขับรถลุยน้ำเข้าไป หากรถเกิดความเสียหาย ประกันจะไม่คุ้มครอง เพราะถือว่าเป็นการนำรถยนต์เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงภัยเอง

 

ประกันรถยนต์ จะชดใช้ค่าเสียหายให้จากความเสียหายที่เกิดขึ้น

               น้ำท่วมรถ อาจทำให้รถยนต์เกิดความเสียหายได้ บางคันอาจเสียหายเพียงเล็กน้อย หรือบางคันอาจเสียหายมาก ซึ่งทางบริษัทประกันรถยนต์จะพิจารณาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยดูจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันทำประกัน โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

 

1. เกิดความเสียหายบางส่วน

               หากประเมินความเสียหายแล้วพบว่า ตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายไม่เยอะ เสียหายเพียงบางส่วน สามารถนำไปซ่อมแซมเพื่อกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการซ่อมรถ

2. เกิดความสูญเสียโดยสิ้นเชิง

               แต่ในกรณีที่น้ำท่วมมิดคัน น้ำท่วมสูงเกินคอนโซลหน้า จนทำให้รถเกิดความเสียหายทั้งภายในห้องโดยสารและเครื่องยนต์ เมื่อประเมินแล้วพบว่าไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือหากนำไปซ่อมแล้วจะไม่คุ้มค่าซ่อม ทางบริษัทประกันจะชดใช้ค่าเสียหายให้ที่ 70-80% ของทุนประกันรถยนต์หรือมูลค่ารถยนต์

  

ซื้อประกันรถยนต์ กับ TIPINSURE คุ้มครองน้ำท่วม

               เพราะเหตุไม่คาดฝันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เพื่อความอุ่นใจ แนะนำให้ทำ ประกันรถยนต์ ไว้จะดีที่สุด หากเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ก็ยังได้รับความคุ้มครอง และหากใครที่กำลังมองหา ประกันรถยนต์ ที่คุ้มครองเหตุน้ำท่วมรถ ให้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก ทิพยประกันภัย ช่วยดูแลคุณ คุ้มครองคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ รถสูญหาย รถไฟไหม้ รถถูกน้ำท่วม ทั้งยังคุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและบุคคลภายนอก ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถ เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ และ ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ www.TIPINSURE.com

 

#Tag: