เหตุผลในการเลือก ประกัน 3 พลัส คือ อะไร? และใครที่ควรซื้อ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ค่าครองชีพในยุค 5G สวนทางกับค่าแรงอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นถ้าใครคิดอยากทำ ประกันภัยรถยนต์ ประกัน 3 พลัส คือ น่าจะเป็นทางออกที่ลงตัวที่สุด ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะปัญหาเรื่องโควิด-19 แม้จะเบาบางลงไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดไปสะทีเดียว ดังนั้นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด จึงน่าจะเป็นแนวทาง ในการแก้ไขปัญหา เรื่องการเงินแบบเฉพาะหน้า โดยเฉพาะการเลือกทำ ประกันภัยอุบัติเหตุ ที่ให้ความคุ้มค่า กับราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ดังนั้นมารู้กันให้ลึกกว่านี้ ว่า ประกัน รถยนต์ ชั้น 3 พลัส มีข้อดีอย่างไร
ประกัน 3 พลัส คือ อะไร ทำไมน่าทำมากกว่าประกันชั้น 3
ถ้าเทียบในเรื่องราคา และความคุ้มค่า ระหว่างประกันภัยในต่ละชั้น ประกัน 3 พลัส คือ ประกันภัยราคากลาง ๆ ที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ไม่ใหม่มาก สามารถคุ้มครองได้หลาย ๆ ด้าน เช่นกัน ซึ่งเมื่อเทียบกับประกัน 2+ กับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะเห็นได้ว่า ประกัน รถยนต์ ชั้น 3 พลัส ราคาต่ำกว่ามาก ๆ และข้อดีก็มากตามไปด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ประกัน 3 พลัส คือ ประกันภัยรถยนต์ ที่จะคุ้มครองรถยนต์ เมื่อเกิดความเสียหายหลัก 3 ส่วน ได้แก่ ตัวรถยนต์เสียหาย ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และบุคคลที่สาม ในกรณีนี้คือ คู่กรณีที่มาชนคุณ หรือคุณชนเขา ซึ่งเมื่อเกิดรถชนขึ้นมาจริง ๆ ก็สามารถคุ้มครองคุณได้อย่างรอบด้าน ทั้งการชนแบบมีคู่กรณี การประกันตัวผู้ขับขี่ กรณีคุณเป็นฝ่ายผิด รับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้เอา ประกันชั้น 3 พลัส ผู้โดยสารในรถ และคู่กรณี
นอกจากนี้ยังชดเชย ค่าเสียหายให้คู่กรณี รวมถึงกรณีที่เสียชีวิตอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา รวมไว้แล้วในประกันภัย ชั้น 3+ ซึ่งประกันชั้น 3 ปกติ ไม่มีการประกันตัว กรณีคุณเป็นฝ่ายผิด และไม่มีการคุ้มครองทรัพย์สินของคุณ อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น ประกัน 3 พลัส คือ คำตอบที่ใช่ และให้ความคุ้มครอง ที่คุ้มราคากว่าเยอะ
ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส ใกล้เคียงประกัยชั้น 1 จริงหรือ?
คุณอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า ว่าถ้าจะซื้อประกันภัยชั้น 1 ควรซื้อ ประกัน รถยนต์ ชั้น 3 พลัส น่าจะดีกว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น หลายคนอาจยังไม่ทราบกันในเชิงลึก ซึ่งเราจะสรุปง่าย ๆ ให้คุณได้ฟัง ว่าข้อดี-ข้อเสียของประกันภัยทั้ง 2 ประเภท ต่างกันอย่างไร?
- ความคุ้มครองต่อตัวรถ
ประกัน 3 พลัส คือ ประกันภัยที่คุ้มครอง การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างเต็มที่ ซึ่งข้อดีไม่ต่างจากประกัยภัยชั้น 1 เลย อาจจะต่างแค่ทุนประกันในกรมธรรม์ ที่คุณอาจได้รับน้อยกว่า ตามสัดส่วนของเบี้ยประกันที่จ่ายไปนั่นเอง ดังนั้นจึงแทบจะไม่มีความต่าง ในเรื่องการคุ้มครองเลย
- ความคุ้มครองต่อทรัพย์สิน
ไม่ต้องกลัวทรัพย์สินสูญหายอีกต่อไป เมื่อเลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ทั้งของผู้เอาประกัน และของคู่กรณี แต่ถ้าเป็น ประกัน รถยนต์ ชั้น 3 พลัส คุณจะได้การคุ้มครอง เฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งคุณอาจเพียงพอแล้ว สำหรับการคุ้มครองคู่กรณี เพียงอย่างเดียว เพราะราคาประกัน 3+ ถูกกว่าชั้นหนึ่งแบบสุด ๆ นั่นเอง
- ความคุ้มครองกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ (ไฟไหม้, น้ำท่วม, รถสูญหาย ฯลฯ)
ประกัน 3 พลัส คือ ประกันที่ไม่คุ้มครอง กรณีเกิดเหตุไฟไหม้, น้ำท่วม, รถสูญหาย หรือรถโดนขโมย ซึ่งประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง ทั้งหมที่กล่าวมา แต่อาจมีกรมธรรม์บางบริษัท ที่คุ้มครองกรณีที่ช่วงนั้นมีหตุการณ์ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น และถ้าเกิดกรณีพิพาท ประกันชั้น 1 จะมีการคุ้มครองคุณ และประกันตัว แต่ประกันชั้น 3+ ไม่มี
- ความคุ้มครองการรักษาพยาบาล
ประกันภัยทั้ง 3+ และชั้น 1 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ครอบคลุมเช่นเดียวกัน คือได้ทั้งผู้เอาประกัน ผู้โดยสาร และคู่กรณี ที่อาจเกิดอาการบาดเจ็บเล็กน้อย หรือรุนแรง จนถึงขั้นพิการ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต ประกัน รถยนต์ ชั้น 3 พลัส ก็คุ้มครองจัดเต็มทั้งหมด
เมื่อเปรียบเทียบกับประกันชั้น 1 พบว่า ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะมีการคุ้มครองที่เน้นการชดเชยคู่กรณี ทั้งตัวรถ ชีวิต และทรัพย์สิน เป็นหลัก ซึ่งมีข้อดีมาก ในกรณที่คุณไปชนกับรถยนต์ราคาแพงมาก ๆ คุณอาจไม่สามารถจ่ายค่าเสียหาย หรือชดเชยทรัพย์สินได้ แต่ถ้าคุณทำ ประกัน 3 พลัส คือ สบายใจหายห่วงได้เลย เพราะคุ้มครองคู่กรณีแบบครอบคลุม คุณจึงไม่เสี่ยงที่จะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ส่วนข้อแตกต่าง จากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 น่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สินของคุณ ที่อาจต้องเผื่อใจ เตรียมเงินสำรองกรณีเสียหายเอง เอาจริง ๆ ก็คุ้มครองตามเบี้ยที่จ่ายไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้มากกว่า ว่าต้องการแบบไหน?
สรุปได้ง่าย ๆ คือ ประกัน รถยนต์ ชั้น 3 พลัส เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ อายุมากกว่า 5 ปี ที่อาจพลาดไปชนรถใหม่ หรือรถหรูราคาแพง แล้วไม่สามารถชดใช้คู่กรณีได้ ซึ่งถ้าซื้อประกัน 3+ ไว้ อย่างน้อยก็สามารถชดเชย กรณีดังที่กล่าวมาได้ และเกิดความอุ่นใจมากขึ้น ในการขับขี่บนท้องถนน ซึ่ง ประกัน 3 พลัส คือ ประกันที่มีราคาถูกมากที่สุด ในบรรดาประกัน 2+ และประกันชั้น 1 ที่สามารถเคลมได้ ตามความต้องการของคุณ หากคุณสนใจประกันภัยราคาประหยัด สามารถโทรปรึกษาได้ที่เบอร์ 1737 หรือดูรายละเอียดออนไลน์ได้ที่ www.TIPINSURE.com ซึ่งทิพยประกันภัย ให้คุณแบบจัดหนักจริง ๆ เพราะจ่ายเบี้ยประกันเพียงหลักพัน แต่ได้ทุนประกันถึงหลักแสนเลยทีเดียว