รถสไลด์ รถยก รถลาก ต่างกันอย่างไร แต่ละคันเหมาะกับเคสไหนบ้าง
เคยสงสัยไหมว่าเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือรถเสีย ทำไมบางครั้งมีรถมายก บางทีมารถมาลาก หรือบางทีก็เป็นรถทั้งคันขึ้นไปอยู่บนรถอีกที? รถสไลด์ รถยก และรถลาก คือผู้ช่วยยามฉุกเฉินที่คอยให้บริการ แต่รู้หรือไม่ว่ารถทั้ง 3 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันและเหมาะกับสถานการณ์ที่ต่างกันออกไป วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมข้อมูลมาให้ครบ จบในที่เดียว เพื่อให้คุณเข้าใจและเลือกใช้บริการได้อย่างถูกต้อง
รถสไลด์ คืออะไร
รถสไลด์ คือ รถบรรทุกที่มีลักษณะพิเศษคือส่วนกระบะท้ายสามารถลาดเอียงลงมาจนเกือบขนานกับพื้นถนนได้ เพื่อให้รถยนต์ที่ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ สามารถขับขึ้นหรือใช้รอกสลิงดึงขึ้นไปบนถาดสไลด์ได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัย จากนั้นถาดสไลด์จะถูกยกขึ้นไปไว้บนรถบรรทุกตามเดิม วิธีการนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายเพิ่มเติมกับตัวรถ โดยเฉพาะช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการเคลื่อนย้ายรถ
ข้อดีและข้อจำกัดของการเลือกใช้รถสไลด์
- ข้อดี
- ปลอดภัยสูงสุด ตัวรถทั้งหมดจะถูกยกขึ้นไปอยู่บนถาดสไลด์ ทำให้ล้อทั้งสี่ล้อไม่สัมผัสพื้นถนน ลดความเสี่ยงความเสียหายต่อระบบเกียร์ ช่วงล่าง และตัวถังได้ 100%
- เหมาะกับรถทุกประเภท สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง, รถสปอร์ตโหลดเตี้ย, รถ SUV, รถขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) หรือแม้กระทั่งรถที่คันใหญ่และมีน้ำหนักมาก
- สะดวกและรวดเร็ว การนำรถขึ้นและลงทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน
- ข้อจำกัด
- ราคาสูงกว่า เมื่อเทียบกับรถยกและรถลาก บริการเรียกรถสไลด์จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
- ต้องการพื้นที่ในการทำงาน การนำถาดสไลด์ลงมาต้องใช้พื้นที่ด้านท้ายพอสมควร อาจไม่สะดวกในที่แคบหรือการจราจรหนาแน่น
รถสไลด์ เหมาะกับสถานการณ์ไหนบ้าง
การเรียกรถสไลด์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ที่รถยนต์ได้รับความเสียหายหนักจนไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เอง เช่น อุบัติเหตุรุนแรง, รถที่ช่วงล่างพัง, ยางแตก หรือรถที่ขับเคลื่อนไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับรถราคาแพง, รถสปอร์ต, รถหรู, รถโหลดเตี้ย หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
รถยก คืออะไร
รถยก หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ รถลากจูง ประเภทหนึ่ง คือ รถที่มีแขนยกติดตั้งอยู่ด้านหลัง ซึ่งแขนยกนี้จะทำหน้าที่ยกช่วงล่างด้านหน้าหรือด้านหลังของรถที่ประสบปัญหาให้ลอยขึ้นจากพื้นถนนเพียงสองล้อ จากนั้นจะทำการลากรถไปยังจุดหมายปลายทาง โดยที่ล้ออีกสองข้างของรถที่ถูกยกจะยังคงหมุนอยู่บนพื้นถนน เป็นวิธีที่พบเห็นได้บ่อยตามท้องถนนทั่วไป เหมาะกับการเคลื่อนย้ายรถในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก
ข้อดีและข้อจำกัดของการเลือกใช้รถยก
- ข้อดี
- คล่องตัวสูง ด้วยขนาดที่เล็กกว่ารถสไลด์ ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบหรือซอยเล็กๆ ได้ดีกว่า
- ราคาเข้าถึงง่าย มีค่าบริการที่ถูกกว่าการเรียกรถสไลด์
- เหมาะกับเหตุฉุกเฉินทั่วไป สามารถให้บริการได้ครอบคลุมปัญหารถเสียพื้นฐานได้ดี
- ข้อจำกัด
- อาจสร้างความเสียหาย การที่ล้อรถยังคงสัมผัสพื้นขณะลากจูง อาจส่งผลเสียต่อระบบเกียร์ โดยเฉพาะรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถเกียร์ออโต้
- ไม่เหมาะกับรถโหลดเตี้ย การใช้แขนยกอาจทำให้ชุดแต่ง สเกิร์ต หรือกันชนของรถโหลดเตี้ยเสียหายได้
- มีความเสี่ยงในการเดินทางไกล การลากจูงในระยะทางไกลอาจส่งผลต่อช่วงล่างและยางของรถได้
รถยก เหมาะกับสถานการณ์ไหนบ้าง
รถยกเหมาะกับสถานการณ์รถเสียที่ไม่รุนแรงมากนัก เช่น แบตเตอรี่หมด สตาร์ตไม่ติด หรือเครื่องยนต์มีปัญหา แต่ระบบเกียร์และช่วงล่างยังอยู่ในสภาพดี สามารถใช้ได้กับรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อทั่วไป และเป็นการเคลื่อนย้ายในระยะทางสั้นๆ เช่น ลากจากจุดเกิดเหตุไปยังอู่ซ่อมรถที่อยู่ใกล้เคียง
รถลาก คืออะไร
รถลากเป็นรูปแบบบริการที่เรียบง่ายที่สุด โดยจะใช้สายลากหรือโซ่เชื่อมต่อระหว่างรถคันที่ลากกับรถคันที่เสียโดยตรง ซึ่งหมายความว่าต้องมีคนควบคุมพวงมาลัยและระบบเบรกของรถที่ถูกลากอยู่ตลอดเวลา วิธีนี้มักใช้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ หรือเป็นการช่วยเหลือกันของรถยนต์ทั่วไป ไม่ใช่รถบริการเหมือนรถสไลด์หรือรถยก และต้องใช้ความระมัดระวังและความชำนาญสูงในการควบคุมรถทั้งสองคัน
ข้อดีและข้อจำกัดของการเลือกใช้รถลาก
- ข้อดี
- ประหยัดที่สุด แทบไม่มีค่าใช้จ่ายหากเป็นการช่วยเหลือกันเอง มีเพียงค่าอุปกรณ์ลากจูง
- หาได้ง่าย สามารถใช้รถยนต์ทั่วไปที่มีกำลังเพียงพอมาช่วยลากได้
- ข้อจำกัด
- อันตรายและเสี่ยงสูง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้ง่ายมาก หากการสื่อสารหรือการควบคุมรถผิดพลาด
- ผิดกฎหมายในบางพื้นที่ การลากจูงบนทางด่วนหรือถนนบางสายเป็นสิ่งต้องห้าม
- สร้างความเสียหายให้ตัวรถ อาจทำให้กันชน หรือตัวถังเสียหายจากการกระชากหรือการชนท้ายกันเอง
- ไม่เหมาะกับรถเกียร์ออโต้ การลากโดยที่เครื่องยนต์ดับอาจทำให้ระบบเกียร์เสียหายรุนแรง
รถลาก เหมาะกับสถานการณ์ไหนบ้าง
รถลากเหมาะกับสถานการณ์จำเป็นและฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น เช่น การเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่อันตรายในระยะทางที่สั้นมากๆ และควรทำด้วยความเร็วต่ำ โดยผู้ขับขี่ทั้งสองคันต้องมีความชำนาญและประสานงานกันได้เป็นอย่างดี ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้หากมีทางเลือกอื่นอย่างการเรียกรถสไลด์หรือรถยก
ตารางเปรียบเทียบรถทั้ง 3 ประเภท
คุณสมบัติ | รถสไลด์ | รถยก | รถลาก |
รูปแบบการเคลื่อนย้าย | ยกรถทั้งคันขึ้นบนถาดสไลด์ | ยกล้อหน้าหรือหลัง แล้วลากไป | ใช้สายลากจูงรถทั้งคัน |
ความปลอดภัยต่อตัวรถ | สูงที่สุด | ปานกลาง (เสี่ยงต่อเกียร์/ช่วงล่าง) | ต่ำที่สุด (เสี่ยงเสียหายสูง) |
รถที่เหมาะสม | รถทุกประเภท โดยเฉพาะรถหรู, รถสปอร์ต, 4WD | รถขับเคลื่อน 2 ล้อ, รถเสียไม่หนัก | กรณีฉุกเฉินระยะสั้นมาก |
ความคล่องตัว | ปานกลาง (ต้องการพื้นที่) | สูง (เข้าที่แคบได้ดี) | สูง |
ราคาค่าบริการ | สูง | ปานกลาง | ต่ำ/ไม่มี |
ระยะทางที่เหมาะสม | ทุกระยะทาง | ระยะสั้นถึงปานกลาง | ระยะสั้นมากและฉุกเฉินเท่านั้น |
สรุปบทความ
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนนรูปแบบไหน การเข้าใจความแตกต่างของรถบริการแต่ละประเภท จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับสถานการณ์และประเภทรถของคุณได้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเลือกใช้บริการรถสไลด์ที่ให้ความปลอดภัยกับรถของคุณสูงสุด และเพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ประกันรถยนต์จาก TIPINSURE ดำเนินงานภายใต้ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ ด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนที่พร้อมอำนวยความสะดวกเมื่อภัยมา เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ไม่ว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงแค่ไหน ก็พร้อมดูแลให้คุณเดินทางต่อได้อย่างสบายใจ