เงินเดือนเท่านี้ ซื้อรถราคาเท่าไรดี?
จะตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ต้องพิจารณารายได้ของตัวเองให้ดี ยิ่งถูกใจอยากได้รถยนต์ที่มีราคาสูงกว่ากำลังซื้อ อนาคตอาจเกิดหนี้เสีย หรือมีประวัติการชำระเงินที่ไม่ดีในอนาคตได้แน่ TIPINSURE ได้รวบรวมทริคการประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการออกรถยนต์คันแรก รับรองว่าช่วยให้คุณผ่อนไหว สบายกระเป๋าได้แน่นอน
ซื้อรถ ผ่อนรถ สัดส่วนเท่าไรดี?
เงินเดือนและกำลังจ่ายของแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณควรซื้อรถยนต์ราคาเท่าไร? งบประมาณ คือสิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกของการซื้อรถยนต์ ถ้าหากคุณต้องการผ่อนต้องคำนวณในเรื่องของเงินดาวน์ให้ดี ซึ่งปกติเงินดาวน์รถยนต์จะอยู่ที่ 20-40% ของราคารถ ยิ่งคุณดาวน์สูงเท่าไร ก็จะทำให้การผ่อนจ่ายค่างวดสบายมากขึ้น
และความสามารถในการชำระค่างวดมากน้อยแค่ไหนนั้น ให้คุณประเมินจากรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน ไม่ควรผ่อนเกิน 40% ของรายได้
ความสามารถในการผ่อนต่อเดือน
ยกตัวอย่างเงินเดือน 15,000 x 40% = 6,000 บาท/เดือน
ราคารถยนต์ที่เหมาะสมในการซื้อ
ยกตัวอย่าง ความสามารถในการผ่อน 6,000 บาท 72 เดือน
ดอกเบี้ย 5.5% ต่อปี เงินดาวน์ 20%
ยอดเงินกู้ 80% จะได้ราคารถยนต์เท่ากับ
6,000 x 72 / (1+5.5%)x80% = 413,793.10 บาท (ราคารถที่ควรซื้อ)
หรือถ้าคุณคิดว่าอยากได้ราคารถยนต์ที่สูงกว่านี้ ก็แนะนำให้ดาวน์มากขึ้น
อย่าลืม! ค่าใช้จ่ายแฝงหลังซื้อรถยนต์ที่ควรเตรียมไว้ให้พอ
อีกหนึ่งเรื่องของการออกรถยนต์ที่หลายคนลืมคิดถึง คือ “ค่าใช้จ่ายแฝง” อื่นๆ ที่ต้องเตรียมตัวไว้หลังจากการซื้อรถยนต์ ที่คุณจำเป็นจะต้องจ่ายทุกปี
ค่างวดรถ
ค่าผ่อนรถยนต์ เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่คุณต้องจ่ายในแต่ละเดือน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ข้างต้นที่กล่าวไป เช่น ราคารถยนต์ ดอกเบี้ย จำนวนเงินดาวน์ ลองตัดสินใจให้ดี เตรียมงบที่ตั้งไว้ให้พร้อม เพื่อรักษาประวัติที่ดีเอาไว้เสมอ
ค่าน้ำมัน
ข้อนี้ก็สำคัญเพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่เหมือนกันตามระยะการใช้รถของคุณในแต่ละวัน ถ้าต้องไปทำงานทุกวัน ค่าน้ำมันก็ประมาณ 4,000 ขึ้นไปต่อเดือนได้ ยิ่งถ้าสภาพการจราจรติดขัด ระยะทาง ถือว่าเปลืองอยู่ทีเดียว
ค่าบำรุงดูแลรักษารถยนต์
แน่นอนว่าการมีรถยนต์ไม่ใช่แต่จะขับอย่างเดียวนะ ต้องมีรอบระยะในการตรวจเช็กสภาพ ไม่ว่าการเช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งจำเป็นจะต้องทำปีละ 2 ครั้ง โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,000-4,000 บาท
ค่า พ.ร.บ./ภาษีรถยนต์/ประกันภัยรถยนต์
เป็นค่าใช้จ่ายภาคบังคับไม่ว่าจะภาษีและ พ.ร.บ.รถยนต์ คุณจำเป็นต้องทำให้ถูกกฎหมาย แต่ในส่วนของประกันภัยรถยนต์คุณจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่การมีประกันภัยรถยนต์ไว้ก็จะทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้นในการขับขี่ ที่ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินใดๆ ก็ตามบริษัทประกันภัยจะรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายประเภท ราคาก็แตกต่างกันออกไป โดยเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับความความคุ้มครองที่คุณต้องการ
จะเห็นว่ามีรถยนต์สักคันมีทั้งค่าใช้จ่ายหลัก ค่าใช้จ่ายแฝงที่จำเป็นต้องจ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใครที่คิดแล้วว่ารายได้ที่มีอาจยังไม่เหมาะที่จะมีรถยนต์ ก็อาจจะรออีกหน่อยให้รายได้ขยับเพิ่มกว่านี้ หรือไม่ก็หารายได้เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนที่นำมาผ่อนรถได้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
สุดท้ายก่อนคิดจะผ่อนรถยนต์สักคัน ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะรถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเสื่อมและเร็วอันดับต้นๆ ของสินทรัพย์เลย ถ้าคุณไม่สามารถนำรถยนต์ไปเพิ่มรายได้ให้กับคุณได้ หรือได้ใช้ประโยชน์จริงจัง ต้องกลับมาคิดให้ว่าเราควรจะมีรถหรือไม่
แต่ใครที่คิดว่าตัวเองไหวพอที่จะมีรถยนต์สักคัน ก็จัดเลย แต่อย่าลืมทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก TIPINSURE ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม หรือมองว่าประกันชั้น 1 เกินความจำเป็น แต่ยังต้องการความอุ่นใจ สามารถเลือกทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ นับเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน เปรียบเทียบราคาและสอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736 พร้อมคุ้มครองคุณตลอด 24 ชั่วโมง