เปิดขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้น เพื่อรับมือในกรณีฉุกเฉิน
15 พฤศจิกายน 2024
ผู้ชม: 407 คน

รวมขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้น เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ต้องทำอย่างไร?

เมื่อเสียงไซเรนดังขึ้น ควันไฟลอยคลุ้ง และความร้อนแผ่ซ่านไปทั่ว... คุณรู้หรือไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เพลิงไหม้? การรู้ขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้นอาจเป็นความรู้ที่ช่วยชีวิตคุณและคนรอบข้างได้ในยามฉุกเฉิน วันนี้ TIPINSURE เราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้คุณพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

 

อันตรายที่เกิดจากไฟไหม้

ก่อนที่เราจะเรียนรู้ขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้น เราควรทำความเข้าใจถึงอันตรายที่แฝงมากับเพลิงไหม้กันก่อน เพราะการรู้เท่าทันภัยจะช่วยให้เราสามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความร้อนสูง

ไฟที่ลุกไหม้สามารถทำให้อุณหภูมิในบริเวณนั้นสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งอาจสูงถึง 600-1000 องศาเซลเซียสภายในเวลาไม่กี่นาที ความร้อนระดับนี้สามารถทำให้เกิดแผลไหม้รุนแรงบนผิวหนังได้ทันที และยังทำให้วัสดุต่างๆ รอบข้างลุกติดไฟได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

มีควันและแก๊สจำนวนมาก

ควันไฟไม่เพียงแต่บดบังทัศนวิสัย แต่ยังเต็มไปด้วยสารพิษอันตราย เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรเจนไซยาไนด์ และสารอื่นๆ ที่เกิดจากการเผาไหม้ของวัสดุต่างๆ การสูดดมควันเหล่านี้แม้เพียงไม่กี่นาทีก็อาจทำให้หมดสติหรือเสียชีวิตได้

พื้นที่ถูกปกคลุมด้วยควันจนมืด

ควันหนาทึบจากไฟไหม้จะทำให้พื้นที่โดยรอบมืดมิด ยากต่อการมองเห็นและหาทางหนี ซึ่งอาจนำไปสู่การหลงทิศทางและติดอยู่ในอาคารที่กำลังไฟไหม้ได้ นอกจากนี้ ควันยังทำให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนก ส่งผลให้การตัดสินใจในภาวะฉุกเฉินทำได้ยากขึ้น

 

ระยะการเกิดเพลิงไหม้

การเข้าใจระยะของการเกิดเพลิงไหม้จะช่วยให้เราสามารถประเมินสถานการณ์และตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว การเกิดเพลิงไหม้สามารถแบ่งออกเป็น 4 ระยะหลัก ดังนี้

  1. ระยะเริ่มต้น (Incipient Stage) : เป็นช่วงที่ไฟเริ่มก่อตัว มีควันเพียงเล็กน้อย และยังไม่มีเปลวไฟปรากฏให้เห็นชัดเจน ในระยะนี้ ออกซิเจนในอากาศยังมีปริมาณมากพอ และอุณหภูมิห้องยังไม่สูงมากนัก เป็นช่วงที่การดับเพลิงทำได้ง่ายที่สุดและมีโอกาสสำเร็จสูง
  2. ระยะลุกไหม้ (Growth Stage) : ไฟเริ่มลุกลามและมีเปลวไฟปรากฏให้เห็นชัดเจน อุณหภูมิในพื้นที่เริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และควันเริ่มหนาแน่นขึ้น ในระยะนี้ การดับเพลิงด้วยอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้นอาจยังทำได้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ
  3. ระยะไฟไหม้รุนแรงเต็มที่ (Fully Developed Stage) : เป็นระยะที่ไฟลุกลามไปทั่วพื้นที่ อุณหภูมิสูงมาก และเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Flashover" ซึ่งทำให้วัตถุที่ติดไฟได้ทั้งหมดในพื้นที่ลุกไหม้พร้อมกัน ในระยะนี้ การดับเพลิงด้วยอุปกรณ์เบื้องต้นไม่สามารถทำได้แล้ว จำเป็นต้องอาศัยหน่วยดับเพลิงมืออาชีพเท่านั้น
  4. ระยะไฟมอดดับ (Decay Stage) : เป็นระยะสุดท้ายที่เชื้อเพลิงเริ่มหมด ทำให้ความรุนแรงของไฟลดลง แต่ยังคงมีความร้อนสูงและควันหนาแน่น อาจเกิดการลุกไหม้ซ้ำได้หากมีออกซิเจนเข้ามาใหม่

การรู้จักระยะต่างๆ ของเพลิงไหม้จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่าควรพยายามดับไฟเองหรือควรอพยพออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด

 

เปิดขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้น

เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ การรู้ขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้นที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญที่คุณควรปฏิบัติ

รีบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในทันที

สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อพบเห็นเหตุเพลิงไหม้คือ การโทรแจ้งเหตุโดยทันที 

  1. กดสัญญาณเตือนภัย (Fire Alarm) หากอยู่ในอาคารที่มีระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย
  2. โทรแจ้ง 199 หรือสายด่วนดับเพลิงในพื้นที่ของคุณ
  3. แจ้งผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้ทราบถึงเหตุเพลิงไหม้

การแจ้งเหตุอย่างรวดเร็วจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถมาถึงที่เกิดเหตุได้เร็วที่สุด ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมเพลิงและลดความเสียหาย

ประเมินสถานการณ์

หลังจากแจ้งเหตุแล้ว ให้ประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็วว่าไฟอยู่ในระยะที่คุณสามารถดับได้เองหรือไม่ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

  • ขนาดของเพลิง: หากไฟยังมีขนาดเล็ก เช่น ขนาดเท่าถังขยะหรือเล็กกว่า คุณอาจสามารถดับได้ด้วยอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น
  • ระยะเวลาที่ไฟลุกไหม้: หากไฟเพิ่งเริ่มลุกไหม้ไม่นาน (ไม่เกิน 30 วินาที) โอกาสในการดับไฟให้สำเร็จจะมีสูง
  • ทางหนีไฟ: ตรวจสอบว่ามีเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยหรือไม่ หากสถานการณ์แย่ลง
  • อุปกรณ์ดับเพลิง: มีอุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสมและพร้อมใช้งานทันที

หากสถานการณ์เกินความสามารถที่จะจัดการได้ ให้อพยพออกจากพื้นที่ทันทีและรอเจ้าหน้าที่ดับเพลิง

ตรวจสอบประเภทของเพลิงไหม้

การรู้ประเภทของเพลิงไหม้จะช่วยให้คุณเลือกวิธีการและใช้อุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ประเภทของเพลิงไหม้แบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักๆ ดังนี้

  1. ประเภท A: เกิดจากเชื้อเพลิงธรรมดา เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก
  2. ประเภท B: เกิดจากของเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน แอลกอฮอล์ สารเคมี
  3. ประเภท C: เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
  4. ประเภท D: เกิดจากโลหะติดไฟ เช่น แมกนีเซียม โซเดียม
  5. ประเภท K: เกิดจากน้ำมันทำอาหาร

ดับเพลิงด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะกับเพลิงไหม้

เมื่อคุณได้ประเมินสถานการณ์และระบุประเภทของเพลิงไหม้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกใช้อุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้น ซึ่งวิธีการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงประเภทต่างๆ มีดังนี้

  1. ถังดับเพลิง: ขั้นตอนการใช้ถังดับเพลิงเบื้องต้น หรือที่เรียกว่า "PASS" มีดังนี้
  • Pull (ดึง): ดึงสลักนิรภัยออก
  • Aim (เล็ง): เล็งหัวฉีดไปที่ฐานของไฟ
  • Squeeze (บีบ): บีบคันโยกเพื่อฉีดสารดับเพลิง
  • Sweep (กวาด): กวาดหัวฉีดไปมาที่ฐานของไฟ
  1. ทรายหรือดิน: ใช้ได้ดีกับไฟประเภท A และ B
  • โปรยทรายหรือดินลงบนฐานของไฟ
  • ใช้ปริมาณมากพอที่จะปกคลุมเชื้อเพลิงทั้งหมด
  1. ผ้าห่มดับไฟ: เหมาะสำหรับไฟขนาดเล็ก เช่น ไฟที่เกิดจากน้ำมันในครัว
  • คลี่ผ้าห่มออก
  • ใช้ผ้าห่มคลุมบริเวณที่เกิดไฟ โดยเริ่มจากด้านใกล้ตัวคุณ
  • ปิดคลุมให้สนิทเพื่อตัดออกซิเจน
  • ทิ้งไว้จนกว่าจะแน่ใจว่าไฟดับสนิทแล้ว
  1. น้ำ: เหมาะกับไฟประเภท A เท่านั้น ห้ามใช้กับไฟประเภทอื่นโดยเด็ดขาด
  • ใช้สายยางหรือถังน้ำฉีดที่ฐานของไฟ
  • ฉีดต่อเนื่องจนกว่าไฟจะดับสนิท

สำหรับวิธีดับเพลิงเบื้องต้นในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์ดับเพลิง คุณอาจใช้วิธีการต่อไปนี้

  • ใช้ผ้าชุบน้ำคลุมลงบนไฟขนาดเล็ก
  • ใช้ฝาหม้อหรือถาดโลหะปิดคลุมไฟที่เกิดจากน้ำมันในครัว
  • ใช้โซดาไฟหรือเบกกิ้งโซดาโรยลงบนไฟ

อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีเหล่านี้ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่างสูง และควรใช้เฉพาะกับไฟขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มลุกไหม้เท่านั้น

 

หากไฟไหม้รุนแรงให้อพยพออกทันที 

ในกรณีที่ไฟลุกลามรุนแรงเกินกว่าจะควบคุมได้ด้วยอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการอพยพออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ต่อไปนี้คือขั้นตอนการอพยพที่ควรปฏิบัติ

  1. ไม่ตื่นตระหนก พยายามรักษาสติและความสงบ
  2. ปิดประตูและหน้าต่างทุกบานเพื่อจำกัดการลุกลามของไฟ
  3. ใช้บันไดหนีไฟ อย่าใช้ลิฟต์เด็ดขาด
  4. หากมีควันหนาแน่น ให้คลานต่ำ เนื่องจากอากาศบริเวณพื้นจะมีควันน้อยกว่า
  5. ตรวจสอบความร้อนของประตูก่อนเปิด หากประตูร้อน ให้หาทางออกอื่น
  6. หากติดอยู่ในห้อง ให้ปิดประตูและอุดช่องว่างรอบประตูด้วยผ้าเปียก
  7. หากเสื้อผ้าติดไฟ อย่าวิ่ง ให้หยุด นอนลง และกลิ้งตัวไปมา (Stop, Drop, and Roll)
  8. เมื่อออกมาถึงจุดรวมพลแล้ว ให้รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่และอย่ากลับเข้าไปในอาคารไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ

 

 

สรุปบทความ

การรู้และเข้าใจขั้นตอนการดับเพลิงเบื้องต้นเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี เพราะเหตุเพลิงไหม้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินจะช่วยลดความเสียหายและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพและการทำประกันอัคคีภัยบ้าน จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจและพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ดียิ่งขึ้น

ทิพยประกันภัย เข้าใจถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับอัคคีภัย และพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำประกันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างครอบคลุมเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การรู้วิธีดับเพลิงเบื้องต้นและการมีประกันอัคคีภัยที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมั่นใจ และสามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคุณและคนที่คุณรักได้อย่างดีที่สุด

#Tag: