เที่ยวยุโรปต้องรู้ วีซ่าเชงเก้นคืออะไร ประเทศไหนบ้างที่ต้องขอ

ฝันอยากไปเยือนยุโรปสักครั้งในชีวิตใช่ไหม? การท่องไปในดินแดนแห่งเทพนิยาย ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ หรือสัมผัสวัฒนธรรมหลากหลาย ถือเป็นหมุดหมายของนักเดินทางทั่วโลก แต่ก่อนจะแพ็กกระเป๋า สิ่งสำคัญที่ต้องรู้จักคือ วีซ่าเชงเก้น เพราะวีซ่านี้เปรียบเสมือนบัตรผ่านวิเศษที่ทำให้เราเดินทางได้อย่างอิสระถึง 29 ประเทศทั่วยุโรป บทความนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับวีซ่าเชงเก้นมาให้แล้ว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปเที่ยวยุโรปกัน!
วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) คืออะไร?
วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) คือ ใบอนุญาตสำหรับเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มข้อตกลงเชงเก้น (Schengen Area) ได้ทุกประเทศเป็นระยะเวลาสั้น ๆ โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 29 ประเทศ ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวฝรั่งเศส ตามรอยประวัติศาสตร์ที่อิตาลี หรือชมแสงเหนือที่นอร์เวย์ ก็สามารถใช้วีซ่าใบเดียวกันนี้เดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องขอวีซ่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าประเทศใหม่
หัวใจสำคัญของวีซ่าเชงเก้นที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ กฎ 90/180 วัน ซึ่งหมายความว่า เราสามารถพำนักในเขตเชงเก้นได้รวมกันไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน ไม่ว่าจะเข้าออกกี่ครั้งก็ตาม ระบบจะเริ่มนับวันแรกที่เราเดินทางเข้าสู่เขตเชงเก้นเป็นวันที่ 1 ของช่วงเวลา 180 วัน ดังนั้น การวางแผนการเดินทางจึงสำคัญมาก เพื่อไม่ให้เราอยู่เกินกำหนดนั่นเอง
วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) มีประเทศอะไรบ้าง
ก่อนจะวางแผนเที่ยว การรู้ว่า Schengen Visa มีประเทศอะไรบ้าง คือสิ่งแรกที่ต้องเช็กให้ชัวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศในฝันของคุณอยู่ในลิสต์ และจะได้วางแผนเส้นทางการเดินทางได้อย่างถูกต้อง
รายชื่อประเทศในกลุ่มข้อตกลงเชงเก้น (Schengen Area)
ปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2025) กลุ่มประเทศเชงเก้นประกอบด้วยสมาชิก 29 ประเทศ ดังนี้
- ออสเตรีย (Austria)
- เบลเยียม (Belgium)
- บัลแกเรีย (Bulgaria)
- โครเอเชีย (Croatia)
- สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)
- เดนมาร์ก (Denmark)
- เอสโตเนีย (Estonia)
- ฟินแลนด์ (Finland)
- ฝรั่งเศส (France)
- เยอรมนี (Germany)
- กรีซ (Greece)
- ฮังการี (Hungary)
- ไอซ์แลนด์ (Iceland)*
- อิตาลี (Italy)
- ลัตเวีย (Latvia)
- ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)*
- ลิทัวเนีย (Lithuania)
- ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)
- มอลตา (Malta)
- เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
- นอร์เวย์ (Norway)*
- โปแลนด์ (Poland)
- โปรตุเกส (Portugal)
- โรมาเนีย (Romania)
- สโลวาเกีย (Slovakia)
- สโลวีเนีย (Slovenia)
- สเปน (Spain)
- สวีเดน (Sweden)
- สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)*
หมายเหตุ: ไอซ์แลนด์, ลิกเตนสไตน์, นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) แต่เข้าร่วมในกลุ่มข้อตกลงเชงเก้น
ประเทศยุโรปที่อยู่นอกกลุ่มเชงเก้น
มีบางประเทศในยุโรปที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่ารวมอยู่ในกลุ่มเชงเก้น แต่ความจริงแล้วต้องขอวีซ่าแยกต่างหาก เช่น
- สหราชอาณาจักร (United Kingdom) ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ต้องขอวีซ่าของสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะ
- ไอร์แลนด์ (Ireland) ถึงแม้จะเป็นสมาชิก EU แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงเชงเก้น และต้องขอวีซ่าของไอร์แลนด์เอง
- ไซปรัส (Cyprus) ยังอยู่ระหว่างกระบวนการเข้าร่วม
ดังนั้น หากในแผนการเดินทางของคุณมีประเทศเหล่านี้อยู่ด้วย อย่าลืมเตรียมตัวขอวีซ่าแยกให้เรียบร้อย!

ขอวีซ่าเชงเก้น ต้องยื่นที่สถานทูตประเทศไหน?
การเลือกสถานทูตให้ถูกต้องเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการยื่นขอวีซ่าเชงเก้น เพราะหากยื่นผิดที่ อาจเป็นสาเหตุให้คำร้องถูกปฏิเสธได้ โดยทั่วไปแล้วหลักเกณฑ์ง่าย ๆ 2 ข้อในการเลือกประเทศที่จะยื่นขอวีซ่า ดังนี้
- ยื่นกับประเทศที่เป็นจุดหมายหลัก คือประเทศที่เราจะใช้เวลาพำนักอยู่นานที่สุดในทริปนั้น ตัวอย่างเช่น ทริป 10 วันของคุณ แพลนเที่ยวอิตาลี 5 วัน สวิตเซอร์แลนด์ 3 วัน และฝรั่งเศส 2 วัน คุณจะต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้นกับสถานทูตอิตาลี
- ยื่นกับประเทศแรกที่จะเดินทางไปถึง ในกรณีที่คุณวางแผนพักในแต่ละประเทศเป็นเวลาเท่า ๆ กัน ให้ยื่นขอวีซ่ากับประเทศแรกที่คุณจะเดินทางไปถึงในเขตเชงเก้น เช่น ทริป 9 วัน เที่ยวเยอรมนี ออสเตรีย และฮังการี ประเทศละ 3 วันเท่ากัน หากคุณบินไปลงที่เยอรมนีก่อน ก็ต้องยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตเยอรมนี
การเลือกสถานทูตที่ถูกต้องเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะหากยื่นผิดที่ คำร้องขอวีซ่าของคุณอาจถูกปฏิเสธได้
วีซ่าเชงเก้นมีกี่ประเภท
วีซ่าเชงเก้นสำหรับคนไทยที่เดินทางไปยุโรป จะเกี่ยวข้องกับวีซ่าหลัก ๆ 2 ประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทาง ดังนี้
วีซ่าประเภท C (วีซ่าพำนักระยะสั้น)
นี่คือวีซ่าประเภทที่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจส่วนใหญ่ต้องขอ ใช้สำหรับการเดินทางที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว, ธุรกิจระยะสั้น, เยี่ยมเยียนเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งจะอนุญาตให้พำนักอยู่ในเขตเชงเก้นได้ไม่เกิน 90 วัน ตามกฎ 90/180 วันที่กล่าวไปข้างต้น
วีซ่าประเภท A (วีซ่าเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน)
วีซ่าประเภทนี้จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางผ่านสนามบินในเขตเชงเก้นเพื่อต่อไปยังประเทศที่อยู่นอกเขตเชงเก้น โดยวีซ่านี้จะอนุญาตให้คุณอยู่ในพื้นที่เปลี่ยนเครื่องระหว่างประเทศ (International Transit Area) ของสนามบินเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางออกจากสนามบินได้
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับยื่นขอวีซ่าเชงเก้น
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง คือกุญแจสำคัญในการขอวีซ่าให้ผ่านฉลุย เราได้รวบรวมเช็กลิสต์เอกสารสำคัญมาให้แล้ว เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้ง่ายขึ้น
กลุ่มเอกสารส่วนตัว
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและเป็นความจริง
- หนังสือเดินทาง (Passport) เล่มจริงที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3 เดือนนับจากวันที่จะเดินทางออกจากเขตเชงเก้น และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า พร้อมสำเนา
- รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน และเป็นไปตามข้อกำหนดของสถานทูต
- สำเนาเอกสารส่วนตัว สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
กลุ่มเอกสารรับรองการทำงาน/การเรียน
- พนักงานบริษัท หนังสือรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษ) ระบุตำแหน่ง เงินเดือน และวันลาพักร้อน
- เจ้าของกิจการ หนังสือจดทะเบียนบริษัทหรือทะเบียนการค้า
- นักเรียน/นักศึกษา หนังสือรับรองสถานะจากสถาบันการศึกษา (เป็นภาษาอังกฤษ)
กลุ่มเอกสารการเงิน
- รายการเดินบัญชี (Bank Statement) สำเนาบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลังอย่างน้อย 3-6 เดือน โดยต้องเป็นบัญชีที่มียอดเงินเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ และมีจำนวนเงินเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายตลอดทริป
- Bank Guarantee (ถ้ามี) หนังสือรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคาร
กลุ่มเอกสารยืนยันการเดินทาง
- ใบจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ระบุชื่อผู้เดินทางและวันเวลาที่ชัดเจน (ยังไม่ต้องออกตั๋วจริง)
- ใบจองที่พัก/โรงแรม ต้องมีชื่อผู้เข้าพักครบทุกคนและครอบคลุมตลอดระยะเวลาของทริป
- แผนการเดินทาง (Itinerary) ระบุแผนการเดินทางในแต่ละวันอย่างละเอียด ว่าจะไปที่ไหน พักที่ไหน และเดินทางอย่างไร
ประกันการเดินทาง (Travel Insurance)
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้! ประกันการเดินทางเป็นเอกสารบังคับในการขอวีซ่าเชงเก้น โดยต้องมีคุณสมบัติดังนี้:
- วงเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 30,000 ยูโร (หรือประมาณ 1,500,000 บาท)
- ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ, การส่งตัวกลับประเทศ และการจัดการศพ
- ต้องมีผลคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในเขตเชงเก้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขอวีซ่าเชงเก้น
ขอวีซ่าเชงเก้นใช้เวลากี่วัน
โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการพิจารณาวีซ่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ แต่ในบางช่วงเวลาที่มีผู้ยื่นขอจำนวนมากอาจใช้เวลานานกว่านั้น แนะนำให้ยื่นคำร้องล่วงหน้าอย่างน้อย 1-3 เดือนก่อนวันเดินทาง เพื่อความสบายใจ
ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นเท่าไหร่
ตามข้อมูลล่าสุดจากคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยมีการปรับอัตราค่าธรรมเนียมดังนี้
- ผู้ใหญ่ 90 ยูโร (ประมาณ 3,500 บาท)
- เด็กอายุ 6-12 ปี 45 ยูโร (ประมาณ 1,750 บาท)
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม
หมายเหตุ ค่าธรรมเนียมอาจเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยน และอาจมีค่าบริการของศูนย์รับยื่นวีซ่า (VFS/TLS) เพิ่มเติม
ขอวีซ่าเชงเก้นต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่
ไม่มีตัวเลขที่กำหนดไว้ตายตัว แต่หลักการคือ ต้องมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง ซึ่งรวมถึงค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ และควรมีเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉินด้วย สถานทูตจะพิจารณาจากความสมเหตุสมผลระหว่างจำนวนเงินในบัญชีกับแผนการเดินทางและระยะเวลาที่พำนัก
เคยถูกปฏิเสธวีซ่า ต้องทำอย่างไร
หากถูกปฏิเสธวีซ่า ไม่ต้องตกใจไปก่อนอื่นให้ตรวจสอบเหตุผลที่ถูกปฏิเสธในเอกสารที่ได้รับคืนมา คุณมีสิทธิ์ที่จะ ยื่นอุทธรณ์ ตามขั้นตอนที่สถานทูตกำหนด หรือ ยื่นขอใหม่ โดยแก้ไขข้อผิดพลาดหรือเตรียมเอกสารเพิ่มเติมให้แน่นหนายิ่งขึ้น การเตรียมเอกสารให้สมบูรณ์และแสดงเจตนาการเดินทางที่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติวีซ่า

สรุปบทความ
การทำความเข้าใจว่าวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) คืออะไร และเตรียมตัวให้พร้อม คือขั้นตอนแรกสู่ทริปยุโรปในฝัน การวางแผนที่ดีตั้งแต่การเลือกประเทศที่ต้องการไป, การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน, ไปจนถึงการยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตที่ถูกต้อง จะช่วยให้ทุกอย่างราบรื่น และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการทำประกันการเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุม เพราะไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ให้ประกันเดินทางจาก TIPINSURE ดูแลคุณตลอดทริป ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ไหน ยื่นวีซ่าไม่ผ่านคืนเงิน 100% พร้อมช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา เพื่อให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวล