เช็กลิสต์ 15 สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน รู้ไว้ก่อนเดินทาง อุ่นใจทุกไฟลท์!
11 กรกฎาคม 2025
ผู้ชม: 7 คน

รวม 15 สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน รู้ไว้ก่อนจัดกระเป๋าเดินทาง

สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินที่ควรรู้
การเตรียมตัวออกเดินทางแต่ละครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางด้วยเครื่องบิน เรื่องการจัดกระเป๋าถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ หลายคนอาจจะมัวแต่ตื่นเต้นกับการเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับทริป หรือกังวลว่าจะลืมของใช้ส่วนตัว แต่รู้หรือไม่ว่า มีสิ่งของบางประเภทที่เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด วันนี้ TIPINSURE ได้รวบรวมรายการสิ่งของต้องห้ามเหล่านี้มาให้แล้ว เพื่อให้การจัดกระเป๋าของคุณราบรื่นและผ่านฉลุยทุกสนามบิน และลดความวุ่นวายที่หน้าเกตได้เป็นอย่างดี

 

รวมสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

ก่อนจะเริ่มแพ็กของลงกระเป๋า เรามาดูกันว่ามีสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินประเภทไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง หรือต้องจัดการเป็นพิเศษ เพื่อให้ทริปในฝันของคุณเริ่มต้นอย่างสบายใจไร้กังวล

1. วัตถุระเบิดและสารไวไฟทุกชนิด

แน่นอนว่าวัตถุอันตรายร้ายแรงอย่างวัตถุระเบิดและสารไวไฟทุกชนิด เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด แก๊สกระป๋องทุกชนิด (รวมถึงแก๊สซ่อมรถหรือแก๊สสำหรับแคมป์ปิง) น้ำมันไฟแช็ก สีน้ำมัน หรือแม้แต่ไม้ขีดไฟในปริมาณมาก สิ่งเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดประกายไฟและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยในการบิน

2. อาวุธปืนและสิ่งที่คล้ายอาวุธ

อาวุธปืนจริงทุกประเภท รวมถึงส่วนประกอบต่างๆ ของปืน เช่น ลำกล้อง กระสุน แม็กกาซีน ถือเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ สิ่งเทียมอาวุธหรือปืนเด็กเล่นที่ดูเหมือนของจริงมากจนแยกไม่ออก ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องเช่นกัน (ทั้งในสัมภาระติดตัวและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง) เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกที่อาจเกิดขึ้น

3. ของมีคมอันตราย

ของมีคมต่างๆ ที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินในส่วนของสัมภาระพกพา (Carry-on) ซึ่งรวมถึง มีดพก คัตเตอร์ มีดพับ มีดทำครัว กรรไกรที่มีใบมีดยาวเกิน 6 เซนติเมตร (วัดจากจุดหมุน) หรือกรรไกรตัดเล็บที่มีใบมีดขนาดใหญ่ รวมถึงเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ (ยกเว้นกรณีทางการแพทย์และมีเอกสารรับรอง) หากจำเป็นต้องนำไปด้วย ควรเก็บไว้ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องและมีการป้องกันอย่างแน่นหนา

4. บุหรี่ไฟฟ้า

สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า โดยทั่วไปแล้วสามารถพกพาในกระเป๋าสัมภาระติดตัว (Carry-on) ได้ แต่ห้ามใส่ในกระเป๋าที่โหลดใต้เครื่องโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องแบตเตอรี่ที่อาจลัดวงจรและเกิดประกายไฟได้ ทั้งนี้ ควรถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวเครื่อง (ถ้าทำได้) และเก็บแบตเตอรี่ในภาชนะที่ปลอดภัย หรือในถุงที่สามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ง่าย และห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินเด็ดขาด

5. สารเคมีอันตราย สารพิษ และสารติดเชื้อ

สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน สารพิษ และสารชีวภาพที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ เป็นกลุ่มสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินอย่างเคร่งครัด ตัวอย่างเช่น ยาฆ่าแมลง สารหนู ปรอท (ยกเว้นเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบปรอทที่ใช้ทางการแพทย์และใส่ในปลอกป้องกัน) แบตเตอรี่ชนิดเปียกที่สามารถรั่วไหลได้ (เช่น แบตเตอรี่รถยนต์) หรือวัตถุชีวภาพที่เป็นอันตราย เช่น ตัวอย่างเลือด หรือเชื้อโรคต่างๆ

สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่อง 1

6. ก๊าซและภาชนะบรรจุแรงดันสูง

ภาชนะที่บรรจุก๊าซภายใต้แรงดันสูง เช่น ถังออกซิเจนส่วนตัว (ยกเว้นกรณีทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตจากสายการบินล่วงหน้าและมีเอกสารประกอบ) ถังแก๊สสำหรับดำน้ำ สเปรย์พริกไทย หรือกระป๋องสเปรย์ที่มีขนาดใหญ่และไม่มีฝาครอบป้องกันการฉีดพ่นโดยไม่ได้ตั้งใจ จัดเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเนื่องจากอาจเกิดการรั่วไหลหรือระเบิดได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความดันอากาศ

7. อาหารที่มีกลิ่นแรง

แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินในเชิงความปลอดภัย แต่สายการบินส่วนใหญ่มักมีข้อกำหนดห้ามนำอาหารที่มีกลิ่นแรงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นขึ้นเครื่อง โดยเฉพาะในห้องโดยสาร ตัวอย่างที่พบบ่อยคือ ทุเรียนสดหรือทุเรียนแปรรูปที่มีกลิ่นแรง ปลาร้า กะปิ หรืออาหารทะเลตากแห้งบางชนิด หากต้องการนำไปด้วย ควรสอบถามสายการบินและอาจต้องแพ็กอย่างมิดชิดและโหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น

8. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

การนำสินค้าลอกเลียนแบบหรือสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้าบางประเทศถือเป็นความผิดทางกฎหมาย แม้ว่าอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน โดยตรงจากข้อกำหนดของสายการบิน แต่การครอบครองสินค้าเหล่านี้อาจทำให้คุณมีปัญหาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือศุลกากรของประเทศปลายทางได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการซื้อหรือนำพาสินค้าเหล่านี้เดินทางไปด้วย

9. แม่เหล็กที่มีความแรงสูง

แม่เหล็กที่มีกำลังดูดสูงมากๆ อาจเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน หรือถูกจำกัดปริมาณและวิธีการบรรจุ เนื่องจากอุปกรณ์แม่เหล็กแรงสูงบางชนิดอาจรบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบนำทางของเครื่องบินได้ หากไม่แน่ใจ ควรตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางเสมอ

10. ยาเสพติดและสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

ยาเสพติดทุกชนิดและสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน และเป็นสิ่งผิดกฎหมายร้ายแรง การลักลอบนำเข้าหรือส่งออกมีโทษสถานหนักในทุกประเทศทั่วโลก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้โดยเด็ดขาด

สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่อง 2

11. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป เช่น โทรทัศน์ขนาดใหญ่ โปรเจคเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องเป็นสัมภาระพกพา (Carry-on) และจำเป็นต้องโหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น หากจำเป็นต้องนำไป ควรห่อด้วยวัสดุกันกระแทกอย่างดีและทำเครื่องหมายว่าเป็นของที่แตกหักง่าย (Fragile) และตรวจสอบนโยบายของสายการบินเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักอีกครั้ง

12. อุปกรณ์กีฬาและเครื่องดนตรี

อุปกรณ์กีฬาบางชนิด เช่น ไม้เบสบอล ไม้กอล์ฟ ไม้คิวสนุกเกอร์ หรืออุปกรณ์ศิลปะป้องกันตัว รวมถึงเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ อาจถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินในฐานะสัมภาระพกพา เนื่องจากอาจถูกดัดแปลงหรือใช้เป็นอาวุธได้ อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน และควรมีบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหาย

13. สัตว์มีพิษและสัตว์ดุร้าย

โดยทั่วไปแล้ว การนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินจะมีระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวด แต่สำหรับสัตว์มีพิษทุกชนิด สัตว์เลื้อยคลานอันตราย สัตว์ดุร้าย หรือสัตว์ที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองและห้ามเคลื่อนย้าย ถือเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินอย่างแน่นอน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำสัตว์เลี้ยงเดินทาง ควรติดต่อสอบถามสายการบินล่วงหน้าเป็นเวลานาน

14. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่มีความจุมากกว่า 160 Wh

แบตเตอรี่สำรองหรือ Power Bank กลายเป็นของจำเป็นสำหรับนักเดินทาง แต่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินหากมีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีความจุไฟฟ้าเกินกำหนด โดยมีเกณฑ์ดังนี้

  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh (Watt-hour) หรือเทียบเท่าประมาณ 20,000 mAh: สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในสัมภาระพกพา (Carry-on) เท่านั้น โดยอาจมีจำกัดจำนวนชิ้นต่อคน (โดยทั่วไปไม่เกิน 20 ชิ้น แต่ควรตรวจสอบกับสายการบินอีกครั้ง)
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 Wh แต่ไม่เกิน 160 Wh (เทียบเท่าประมาณ 20,000 – 32,000 mAh): สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในสัมภาระพกพา (Carry-on) เท่านั้น และจำกัดไม่เกินคนละ 2 ชิ้น และอาจต้องได้รับอนุญาตจากสายการบินก่อน
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh (เทียบเท่ามากกว่า 32,000 mAh) ขึ้นไปห้ามนำขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด ทั้งในสัมภาระพกพาและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง

15. ของเหลวบางชนิด (LAGs - Liquids, Aerosols, Gels)

ของเหลว เจล และสเปรย์ (LAGs) เป็นอีกกลุ่มที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยสายการบินส่วนใหญ่ทั่วโลกมีกฎเกณฑ์ที่คล้ายกันคือ อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถนำของเหลวใส่กระเป๋าสัมภาระพกพา (Carry-on) ได้ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • ของเหลวแต่ละชิ้นต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร
  • ภาชนะทั้งหมดต้องใส่รวมกันในถุงพลาสติกใสแบบผนึก (Zip-lock bag) เพียงหนึ่งถุงเท่านั้น
  • ปริมาตรรวมของของเหลวทั้งหมดในถุงนั้นต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร (หรือ 1 ลิตร)
  • ผู้โดยสารหนึ่งคนสามารถนำถุงพลาสติกใสนี้ขึ้นเครื่องได้เพียงหนึ่งถุง

ของเหลวที่อนุโลมให้ขึ้นเครื่องบินได้

แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องของเหลว แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับของเหลวบางประเภทที่จำเป็น ซึ่งอาจได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้เกินปริมาณที่กำหนด แต่ต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจค้น และอาจต้องมีเอกสารประกอบ

  • ยารักษาโรคประจำตัว ยาในรูปแบบของเหลว เจล หรือสเปรย์ ที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างเที่ยวบิน สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ควรมีใบรับรองแพทย์หรือฉลากยาที่ระบุชื่อผู้ป่วยชัดเจนประกอบการสำแดง
  • อาหารเหลวตามคำแนะนำแพทย์ สำหรับผู้โดยสารที่มีความต้องการทางการแพทย์เฉพาะ และต้องรับประทานอาหารเหลว สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อการเดินทาง โดยควรมีเอกสารทางการแพทย์ยืนยัน
  • นมหรืออาหารสำหรับเด็กทารก นมผง นมกล่อง หรืออาหารเหลวสำหรับเด็กทารก สามารถนำขึ้นเครื่องได้ในปริมาณที่สมเหตุสมผลและเพียงพอสำหรับระยะเวลาเดินทางของเที่ยวบินนั้นๆ และต้องมีเด็กทารกเดินทางไปด้วย

สรุปสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่อง

สรุปบทความ

การทราบข้อมูลสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินและการเตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทางให้ถูกต้องตามกฎระเบียบของสายการบิน จะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายและราบรื่นยิ่งขึ้น ลดปัญหากวนใจที่อาจเกิดขึ้นหน้างานได้เป็นอย่างดี การตรวจสอบรายการต้องห้ามขึ้นเครื่องบินล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แต่ถ้าให้ดีและอุ่นใจยิ่งกว่า ควรมีประกันเดินทางต่างประเทศติดตัวไว้เสมอ เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาเมื่อภัยมา ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน เจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุระหว่างเดินทาง ก็มั่นใจได้ว่ามี TIPINSURE พร้อมดูแลคุณในทุกสถานการณ์

#Tag: