คปภ. ประกาศเกณฑ์ใหม่ 2568 ประกันภัยรถยนต์ต้องระบุชื่อคนขับทุกคัน!

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เห็นถึงการประเมินเบี้ยประกันภัยแบบรายคันหรืออิงเฉพาะตัวรถไม่เพียงพออีกต่อไป จึงมีการประกาศใช้เกณฑ์ใหม่ที่เน้น “การระบุชื่อผู้ขับขี่” โดยตรง เพื่อความโปร่งใส ยุติธรรม และส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนมากยิ่งขึ้น

ประกาศเกณฑ์ใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้การทำประกันภัยรถยนต์ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ทุกคัน การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนและสร้างความเป็นธรรมในการคำนวณเบี้ยประกันภัย และเพื่อส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีขึ้น ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน เป็นประโยชน์ต่อสังคม 

ประเด็นสำคัญประกอบด้วยการกำหนดรูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยให้ระบุชื่อผู้ขับขี่ พร้อมจัดทำเอกสารแนบท้ายการซ่อมศูนย์บริการ การรับช่วงสิทธิ์และการสำรองจ่ายสำหรับรถยนต์ที่มีระบบซอฟต์แวร์ควบคุมรถยนต์ รวมถึงการปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัย

กฎเกณฑ์เดิม 2567

บังคับให้ระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คน สำหรับการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้รางวัลกับผู้ขับขี่ที่ดี ด้วยการเสนอส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่ม 10 - 40 % ต่อปี ซึ่งในปี 2568 จะเริ่มปรับใช้ เกณฑ์ใหม่การระบุชื่อผู้ขับขี่ กับรถสันดาป และรถยนต์น้ำมัน

เกณฑ์การระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มเมื่อไร?

1 มิถุนายน 2568

รถยนต์ป้ายแดง (อายุไม่เกิน 1 ปี) ที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 จะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์

1 มกราคม 2569

รถยนต์ทุกประเภทที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 จะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่เช่นกัน

รายละเอียดของนโยบายใหม่

• ผู้ทำประกันสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คนในกรมธรรม์เดียว
• ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับขี่ เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน หรือเลขใบขับขี่ เพื่อให้บริษัทประกันสามารถตรวจสอบพฤติกรรมและประวัติการขับขี่ย้อนหลังได้
• หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่หลักในระหว่างปีกรมธรรม์ ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยทันที

ทำไมต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์?

การระบุชื่อผู้ขับขี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดระเบียบ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการคำนวณเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล 

ส่งเสริมพฤติกรรมขับขี่ที่ดี

ผู้ขับขี่จะมีความระมัดระวังและรับผิดชอบต่อการขับขี่ของตัวเองมากขึ้น ไม่ชนบ่อย ขับปลอดภัย เสี่ยงน้อยลง เพราะประวัติการขับขี่จะมีผลต่อเบี้ยประกันในอนาคต

สร้างระบบรางวัลสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ผู้ที่มีประวัติขับขี่ดี ไม่มีการเคลมประกัน หรือไม่มีประวัติอุบัติเหตุ จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุดถึง 40%

ระบุผู้ขับขี่เพื่อเข้าสู่ประกันรถยนต์แบบ personalize

นอกจากประโยชน์ในด้านส่วนลดแล้ว การระบุผู้ขับขี่จะทำให้บริษัทประกันรถยนต์ มีข้อมูลของผู้ขับขี่แต่ละคนแบบละเอียด อายุ เพศ จังหวัดที่อาศัย และอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้สามารถออกแบบกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากขึ้น

ลดความเหลื่อมล้ำในระบบประกันภัย

คนที่ขับขี่อย่างปลอดภัยไม่ควรจ่ายเบี้ยประกันในอัตราเดียวกับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูง

ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ 40% + 40% คืออะไร

จากเดิมส่วนลดของประกันภัยรถยนต์ คือ “ส่วนลดประวัติดี” คือให้ส่วนลดกับรถที่ไม่มีประวัติการชนแบบเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีเลย ลดสูงสุดที่ 50%

แต่เมื่อปรับเป็นแบบบังคับระบุผู้ขับขี่ทำให้มีส่วนลดประกันภัยรถยนต์เพิ่มขึ้นมากลายเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ขับดี และ ส่วนลดประวัติดีของรถ โดยลดสูงสุดที่ 40% + 40%

ตัวอย่าง เบี้ยประกันภัยเต็ม (ก่อนส่วนลด) : 20,000 บาท 
ส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่ 20,000 x 40% = ลด 8,000 บาท เหลือเบี้ย = 12,000 บาท
ส่วนลดจากประวัติขับขี่ดี 12,000 x 40% = ลดเพิ่มอีก 4,800 บาท เหลือเบี้ยสุทธิ = 7,200 บาท
สรุป จากเบี้ยประกันเดิม 20,000 บาท หากผู้ขับขี่มีพฤติกรรมขับขี่ดี + ไม่มีประวัติเคลม + ระบุชื่อในกรมธรรม์ครบถ้วน อาจได้เบี้ยประกันลดเหลือเพียง 7,200 บาท (ลดรวมถึง 64%) 
** ส่วนลดนี้เป็นกรณีสูงสุด และขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัย ควรสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขจากบริษัทประกันที่คุณเลือกอีกครั้ง

คุณต้องเตรียมตัวอย่างไร?

ก่อนซื้อประกันภัยรถยนต์หลังปี 2568 คุณควรเตรียมรายชื่อผู้ที่ใช้รถเป็นประจำอย่างแท้จริง ศึกษาโปรโมชั่นของแต่ละบริษัทประกันที่อาจมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติม หากระบุชื่อผู้ขับขี่ และเลือกบริษัทประกันภัยที่สามารถให้ข้อมูลชัดเจนเรื่องระบบส่วนลดและการดูแลกรณีมีการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่

การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงระบบประกันภัยรถยนต์ โดยเน้นการส่งเสริมความปลอดภัยและความเป็นธรรมในการคำนวณเบี้ยประกันภัย ผู้ขับขี่ควรเตรียมตัวและปรับตัวให้เข้ากับเกณฑ์ใหม่นี้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการทำประกันภัยรถยนต์

อย่ารอให้ถึงวันต่อประกันแล้วรีบหาที่ทำไม่ทัน เลือกความคุ้มครองที่เข้าใจทุกกฎใหม่ กับประกันภัยรถยนต์ จากทิพยประกันภัย มีทีมให้คำปรึกษา พร้อมช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ให้รถคุณปลอดภัยทุกเส้นทาง และประหยัดค่าใช้จ่าย สอบถามรายละเอียดได้ที่ TIPINSURE.COM หรือโทร. 1736